องค์การการค้าและการพัฒนาแห่งสหรัฐอเมริกา หรือ USTDA ได้มอบทุนช่วยเหลือแก่สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลของไทย เพื่อสนับสนุนการพัฒนาโครงการเมืองอัจฉริยะด้านต่างๆ เช่น การขนส่ง พลังงาน และการจัดการทรัพยากรน้ำ นอกจากนั้น หน่วยงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดของรัฐบาลสหรัฐฯที่มีชื่อว่า Narcotics Affairs Section หรือ NAS ให้เงินช่วยเหลือไทยในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด โดยให้งบประมาณ วัสดุอุปกรณ์ และผู้เชี่ยวชาญ

2 รายการที่สหรัฐฯช่วยไทยทำให้หลายคนและหน่วยงาน เอามาตะโกนก้องร้องบอกว่าสหรัฐฯมีบุญคุณกับไทย มอบเงินและความช่วยเหลือให้กับประเทศไทยโดยที่ไม่ค่อยเคยบอกว่าเป็นจำนวนเงินเท่าใด เหมือนกับที่มีข่าวว่ากลุ่มธนาคารโลกส่งเงินมาช่วยลดการผลิตสารที่ทำลายโอโซน เพื่อให้ไทยนำเงินจำนวนนี้ไปใช้พัฒนาเครื่องปรับอากาศและโฟม เรื่องเงินจากธนาคารโลกนี่ก็ดัง พูดกันไม่รู้จบ ตอนแรกผมก็นึกว่าจะมีมูลค่ามาก แต่เมื่อเข้าไปดูข้อมูลพบว่าธนาคารโลกเคยให้เงินไทยมา 23 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯหรือประมาณ 800 ล้านบาท

24 มกราคม 2025 พวกเล่นข่าวกันอีกแล้วครับว่า โอย เราจะทำอย่างไร นายมาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯประกาศระงับเงินช่วยเหลือที่มอบให้แก่ต่างชาติเป็นเวลา 90 วัน ยกเว้นเงินที่ช่วยเหลืออิสราเอลและอียิปต์ นำมาโพสต์วิพากษ์วิจารณ์สร้างความตกใจไปทั่ว อย่างกับว่าถ้าไม่ได้เงินช่วยเหลือจากสหรัฐฯ ก็จะอยู่ไม่ได้ ประเทศของเราจะอยู่ไม่ได้

ที่น่าจะกระทบหนักก็ต้องโน่นครับ ประเทศที่มีพรมแดนใกล้ชิดติดกับสหพันธรัฐรัสเซียที่มีชื่อว่าอูเครน คำสั่งของรัฐมนตรีรูบิโอดูเหมือนจะระงับทุกอย่างตั้งแต่ด้านการพัฒนาจนถึงความช่วยเหลือด้านการทหาร ในยุคของไบเดนเพียงแต่อูเครนส่งสายตาไป ไบเดนก็รีบส่งเงินและอาวุธยุทโธปกรณ์มาช่วยในมูลค่าหลายหมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

...

คำสั่งของรูบิโอไม่ได้กระทบกับอูเครนอย่างเดียว แต่กระทบกับจอร์แดน ประเทศในตะวันออกกลางที่รับสตางค์เป็นกอบเป็นกำจากสหรัฐฯ กระทบมากกว่าใครก็คือสาธารณรัฐจีนหรือไต้หวัน หากพ้น 3 เดือนไปแล้ว ทรัมป์เกิดบ้าสั่งให้รัฐมนตรีต่างประเทศประกาศงดความช่วยเหลือต่อ ฮ่อๆ ได้ยินผู้นำไต้หวันตะโกนว่า อาย ยา (โอ้ย) หว่อ หวาน เล่อ (อั๊วพังแล้ว) เจ้อ เซี่ย จาว เกา เลอ (คราวนี้แย่แน่) ต้าหริน เหม่ยกั๋ว (ท่านเจ้านายสหรัฐฯ)

สหรัฐฯเป็นผู้บริจาคช่วยเหลือต่างประเทศรายใหญ่สุดในโลกโลกามหาพิภพใน ค.ศ.2023 สหรัฐฯเมตตามอบเงินบริจาคไปให้ประเทศต่างๆ มากถึง 6.8 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 2.28 ล้านล้านบาท พวกที่รับเงินช่วยเหลือจากสหรัฐฯเป็นกอบเป็นกำก็เช่น อิสราเอลที่ได้เงินช่วยการทหารปีละ 3.3 พันล้านดอลลาร์

เข้าไปดูในบัญชีรายชื่อของประเทศที่ได้รับความเมตตาจากสหรัฐฯใน ค.ศ.2025 ซึ่งรัฐบาลของไบเดนยื่นขอต่อสภาคองเกรสก็มีอูเครน เอกวาดอร์ ไทย จิบูตี โคลอมเบีย ปานามา อิสราเอล อียิปต์ จอร์แดน ไต้หวัน ฯลฯ เมื่อมีคำสั่งของรัฐมนตรีต่างประเทศรูบิโอ เงินจำนวนนี้ก็ต้องถูกระงับไว้ก่อน

สหรัฐฯถอย จีนก็อาจจะได้รับความเคารพนับถือจากนานาชาติมากขึ้น ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จีนมอบเงินกู้และเงินช่วยเหลือ 8.43 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯแก่ 165 ประเทศ (ข้อมูลจาก Voice of America) นอกจากนั้น จีนยังจัดงบประมาณหลายแสนล้านหยวนต่อปีเพื่อให้ความช่วยเหลือต่อประเทศต่างๆ ร้อยละ 47.3 ของเงินที่จีนช่วยต่างประเทศเป็นเงินช่วยเหลือแบบให้เปล่า

ขณะที่สหรัฐฯยุคของทรัมป์ถอยจากเวทีระหว่างประเทศเพื่อมุ่งเน้นเรื่องภายในประเทศ ปรับเปลี่ยนแนวทางการทูต ลดบทบาทในองค์กรระหว่างประเทศเพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายของรัฐบาลสหรัฐฯ มีแนวโน้มว่าจีนจะแสดงบทบาทที่ยิ่งใหญ่ขึ้นโดยผ่านโครงการข้อริเริ่มแถบและเส้นทาง (BRI)

ผมคิดว่าจีนจะใช้โอกาสที่สหรัฐฯอ่อนเปลี้ยเพลียแรงและประกาศถอนตัวจากองค์การระหว่างประเทศหลายแห่ง เขยิบสถานะของตนเอง 4 ปีถัดไปในยุคของทรัมป์อาจจะจบลงด้วยการที่จีนทะยานขึ้นเป็นเบอร์หนึ่งของโลกก็ได้ครับ

นอกจากสหรัฐฯและจีนแล้ว เราก็มองไม่เห็นประเทศอื่นที่จะก้าวขึ้นมาในระดับนี้ได้อีก.


นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย
songlok1997@gmail.com

คลิกอ่านคอลัมน์ “เปิดฟ้าส่องโลก” เพิ่มเติม