ตอนที่ทรัมป์เป็นประธานาธิบดีสมัยแรก แกลงนามเพื่อถอนตัวจากองค์การอนามัยโลกเมื่อ ค.ศ.2020 โดยให้เหตุผลว่า องค์การอนามัยโลกจัดการปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างไม่มีประสิทธิภาพ และใกล้ชิดกับจีนมากเกินไป
กระบวนการถอนตัวเริ่มต้นอย่างเป็นทางการในเดือนกรกฎาคม 2020 แต่ยังไม่ทันเสร็จเพราะต้องใช้เวลานานถึง 1 ปีในการดำเนินการให้สมบูรณ์ พอถึง ค.ศ.2021 ไบเดนเป็นประธานาธิบดี และลงนามคำสั่งบริหารยกเลิกการถอนตัว ทำให้สหรัฐฯยังคงเป็นสมาชิกขององค์การอนามัยโลกต่อไป ดังนั้น การที่มีข่าวว่าในยุคของทรัมป์สมัยแรกสหรัฐฯไม่ได้เป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลกจึงไม่เป็นความจริง
20 มกราคม 2025 ทรัมป์ไม่รอให้เวลาผ่านไปเหมือนกับในสมัยแรก ทันทีที่สาบานรับตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯสมัยที่สองปุ๊บ ทรัมป์ลงนามคำสั่งบริหารเพื่อนำสหรัฐฯถอนตัวออกจากองค์การอนามัยโลกปั๊บ และจะมีผลสมบูรณ์ในอีก 12 เดือนข้างหน้า
เมื่อสหรัฐฯถอนตัวจากองค์การอนามัยโลก องค์กรแห่งนี้ก็คงจะง่อนแง่น เนื่องจากสหรัฐฯเป็นผู้สนับสนุนเงินรายใหญ่ที่สุด คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 18 ของเงินทุนทั้งหมด ต่อไปนี้โครงการต่อต้านวัณโรคซึ่งเป็นโรคติดเชื้อที่ทำให้พลเมืองโลกล้มตายมากที่สุดก็อยู่ในภาวะเสี่ยง โครงการต่อต้าน HIV/AIDS รวมทั้งโครงการอื่นๆอีกมากมายหลายอย่างก็คงจะโงนเงนโอนเอน
การถอนตัวออกจากองค์การอนามัยโลกทำให้ความน่าเชื่อถือทางการทูตและการเมืองของสหรัฐฯลดลง เดิมโลกเคยมองว่าสหรัฐฯเป็นผู้นำในด้านสาธารณสุข ตอนนี้ก็คงไม่ได้มองอย่างนั้นแล้ว พันธมิตรสหรัฐฯหลายประเทศเกรงว่าสหรัฐฯอาจจะถอนความร่วมมือระดับโลกอีกหลายแห่ง ซึ่งกระทบต่อสถานการณ์โลกแน่นอน
การตัดสินใจของสหรัฐฯสร้างความตระหนกตกใจและไม่พอใจให้กับหลายประเทศ ประเทศเหล่านี้ก็หันหาจีน เพื่อให้จีนก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำองค์กรระหว่างประเทศมากขึ้น หลายประเทศก็อาจจะเริ่มมองว่าสหรัฐฯมีการกระทำที่ไม่เหมาะสมในช่วงที่โลกมีวิกฤติ
...
ปัจจุบันสหประชาชาติมีสมาชิกทั้งหมด 193 ประเทศ แต่องค์การอนามัยโลกมีสมาชิกทั้งหมด 194 ประเทศ ผู้อ่านหลายท่านอาจจะสงสัยตัวเลขนี้ครับ ขอเรียนว่าหนึ่งเดียวที่เกินมาคือไต้หวัน
ไต้หวันเคยเป็นสมาชิกขององค์การอนามัยโลกในนามสาธารณรัฐจีน จนกระทั่ง ค.ศ.1971 สหประชาชาติรับรองจีนแผ่นดินใหญ่ แม้ไต้หวันไม่ได้เป็นสมาชิกสหประชาชาติเพราะสถานะทางการเมือง แต่องค์การอนามัยโลกยอมรับการมีส่วนร่วมของบางเขตการปกครองที่ไม่ได้เป็นรัฐสมบูรณ์ตามกฎของสหประชาชาติ นี่เป็นความยืดหยุ่นขององค์การอนามัยโลก หลังจากนี้ 12 เดือน องค์การอนามัยโลกก็จะมีสมาชิก 193 ประเทศเพราะจะไม่มีสหรัฐฯแล้ว
ตอนที่เป็นประธานาธิบดีสมัยแรก ทรัมป์ถอนตัวจาก 1.ข้อตกลงปารีสว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ 2.ข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน JCPOA และ 3.คณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (UNHRC) ปัจจุบันองค์กรระหว่างประเทศหลายแห่งก็คงจะหนาวๆร้อนๆ เพราะกลัวว่าสหรัฐฯจะถอนตัว ทำให้เงินที่จะใช้จ่ายในองค์กรจะมีไม่พอ นอกจากนั้น คนทำงานสัญชาติอเมริกันก็อาจจะถอนตัวกลับไปด้วย
ทรัมป์เองเป็นเจ้าโปรเจกต์ คราวนี้มาได้อีลอน มัสก์ ร่วมทีม ซึ่งคนนี้ก็เป็นเจ้าโปรเจกต์และเดาใจยากเช่นกัน สหรัฐฯจะเปลี่ยนแปลงมาก อีลอน มัสก์ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้นำกระทรวงประสิทธิภาพรัฐบาลหรือ Department of Government Efficiency (DOGE) ที่เป็นกระทรวงตั้งใหม่
มัสก์ประกาศแล้วว่า แกจะรื้อระบบราชการ จะลดกฎระเบียบ จะตัดค่าใช้จ่าย จะปรับโครงสร้างหน่วยงานของรัฐบาลกลาง มัสก์จะต้องทำงานเหล่านี้ให้เสร็จภายในวันที่ 4 กรกฎาคม 2026 เพื่อจะเป็นของขวัญแก่ประเทศในโอกาสครบรอบ 250 ปี ของการลงนามในคำประกาศอิสรภาพ
พวกที่ต้องระวังตัวอีกกลุ่มหนึ่งก็คือ กลุ่มที่ทรัมป์มองว่าเป็นศัตรูทางการเมือง โดยเฉพาะพวกที่ทรัมป์เรียกว่า Deep State หรือรัฐซ้อนรัฐ ซึ่งเป็นเครือข่ายเจ้าหน้าที่รัฐบาลที่ถูกกล่าวหาว่าขัดขวางนโยบายของทรัมป์ ทรัมป์ตั้งใจจะจัดการกับพวกสื่อที่ผลิตเฟกนิวส์หรือข่าวปลอม และจะลุยกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงในหน่วยงานความมั่นคง อย่างเอฟบีไอและซีไอเอเพราะพวกนี้เคยเล่นงานแกเรื่องแทรกแซงการเลือกตั้ง
แม้ว่าอากาศจะหนาว แต่แผ่นดินสหรัฐฯน่าจะร้อนนะครับ.
นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย
songlok1997@gmail.com
คลิกอ่านคอลัมน์ “เปิดฟ้าส่องโลก” เพิ่มเติม