ผู้เชี่ยวชาญของยูเครนกำลังศึกษาซากขีปนาวุธทิ้งตัวพิสัยกลาง ที่รัสเซียยิงโจมตีเมืองของพวกเขาเมื่อสัปดาห์ก่อน หวังทำความเข้าใจเทคโนโลยีเบื้องหลัง

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อ 24 พ.ย. 2567 ว่า เจ้าหน้าที่ของยูเครนกำลังศึกษาเศษซากของ ขีปนาวุธทิ้งตัวพิสัยกลางรุ่นใหม่ ที่รัสเซียใช้โจมตีเมืองดนิโปรของพวกเขา เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (21 พ.ย.) ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่อาวุธทรงพลังขนาดนี้ ถูกนำมาใช้ในสงครามซึ่งดำเนินมานานกว่า 2 ปีแล้ว

พนักงานของ รอยเตอร์ส เป็นหนึ่งในนักข่าวกลุ่มเล็กๆ ที่ได้รับอนุญาตให้เข้าถึงเศษซากขีปนาวุธดังกล่าว เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยภาพที่กลุ่มนักข่าวถ่ายเอาไว้แสดงให้เห็น เศษซากขีปนาวุธที่ถูกไฟไหม้จนดำ แต่พวกเขาไม่ได้เปิดเผยว่า สถานที่เก็บซากนั้นอยู่ที่ใด ด้วยเหตุผลทางความมั่นคง

ซากอาวุธดังกล่าว อาจทำให้ยูเครนเข้าใจห่วงโซ่อุปทานทางทหาร และการผลิตของรัสเซีย หรืออาจทำให้พวกเขาสามารถพัฒนาวิธีตอบโต้อาวุธชนิดนี้ได้

ทั้งนี้ ขีปนาวุธทิ้งตัวพิสัยกลางตามปกติแล้วจะมีพิสัยทำการสูงสุด 5,500 กม. โดยรัสเซียเรียกขีปนาวุธรุ่นใหม่ของพวกเขาว่า “โอเรชนิก” (Oreshnik) และอ้างว่าเป็นอาวุธที่ระบบป้องกันทางอากาศไม่สามารถยิงสกัดได้ ขณะที่ฝ่ายยูเครนเผยว่า จรวดลูกนี้พุ่งด้วยความเร็วสูงสุดมากกว่า 13,000 กม./ชม. ในตอนที่มันถูกยิงใส่เมืองดนิโปร เมื่อวันพฤหัสบดี

...

ผู้เชี่ยวชาญ 2 คนบอกกับกลุ่มผู้สื่อข่าวว่า นี่นับเป็นครั้งแรกที่มีการค้นพบเศษซากขีปนาวุธแบบนี้ ในดินแดนของยูเครน และพวกเขาบอกเพียงว่า มันคือขีปนาวุธแบบยิงขึ้นไปบนบรรยากาศแล้วทิ้งตัวลงมาสู่เป้าหมาย แต่ย้ำว่า นี่เป็นเพียงการประเมินเบื้องต้น ยังต้องใช้เวลามากกว่านี้ในการศึกษาอย่างระมัดระวัง

ประธานาธิบดี โวโลดีเมียร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน กล่าวว่า การใช้ขีปนาวุธทิ้งตัวพิสัยกลางของรัสเซีย จะทำให้สงครามขยายตัวมากขึ้น และเรียกร้องให้ชาติพันธมิตรของยูเครนมีการตอบสนอง

ด้านรัสเซียระบุว่า พวกเขาทดสอบยิงขีปนาวุธรุ่นใหม่นี้ใส่ยูเครน ก็เพื่อตอบโต้ที่เคียฟยิงขีปนาวุธพิสัยไกล ของสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักรเข้าสู่ดินแดนของพวกเขา หลังได้รับอนุญาตจากประเทศเจ้าของอาวุธเป็นครั้งแรกในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา

อนึ่ง จนถึงตอนนี้ยังไม่มีฝ่ายใดเปิดเผยความเสียหายที่เกิดจากขีปนาวุธทิ้งตัวของรัสเซีย

ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign

ที่มา : reuters