องค์กรมนุษยชนออกโรงตำหนิสหรัฐฯ ที่ตัดสินใจจะจัดหาทุ่นระเบิดสังหารบุคคลให้แก่ยูเครน ซึ่งกำลังเพลี่ยงพล้ำอย่างหนักในสมรภูมิทางตะวันออก

แมรี แวร์แฮม ผู้อำนวยการองค์กร “ฮิวแมน ไรท์ วอตช์” บอกกับสำนักข่าว บีบีซี ว่าการตัดสินใจของสหรัฐฯ ที่จะจัดหาทุ่นระเบิดสังหารบุคคลให้แก่ยูเครนนั้น นับเป็นพัฒนาการที่น่าตกใจและบั่นทอนจิตใจอย่างหนัก สำหรับผู้ที่กำลังพยายามเพื่อกำจัดอาวุธชนิดนี้หมดไปจากโลก

นักวิเคราะห์มองว่า การตัดสินใจของสหรัฐฯ เป็นความพยายามชะลอการรุกคืบของกองทัพรัสเซีย ในสมรภูมิฝั่งตะวันออกของยูเครน ซึ่งทหารรัสเซียรุกคืบยึดพื้นที่ได้เรื่อยๆ ตลอดช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา

นายลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯ กล่าวว่า พวกเขามีการตัดสินใจดังกล่าว เพราะรัสเซียเปลี่ยนแท็กติกในการทำสงคราม โดยส่งทหารเข้าไปโจมตีก่อน แทนที่จะเป็นหน่วยยานยนต์เหมือนเมื่อก่อน

อย่างไรก็ตาม กลุ่มรณรงค์ระหว่างประเทศเพื่อการห้ามใช้ทุ่นระเบิด (International Campaign to Ban Landmines : ICBL) ระบุว่า พวกเขาขอประณามการตัดสินใจของสหรัฐฯ อย่างรุนแรงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

“อาวุธโจมตีไม่เลือกอันน่าหวาดกลัวนี้ ถูกห้ามใช้โดยสนธิสัญญาห้ามใช้ทุ่นระเบิด ปี 1997 (พ.ศ. 2540) เนื่องจากผลกระทบอันเลวร้ายที่มันก่อให้เกิดแก่ชีวิตและการใช้ชีวิตของพลเรือน” เทเมอร์ กาเบลนิค ผู้อำนวยการของ ICBL ระบุในแถลงการณ์

“ภายใต้สนธิสัญญานั้น ไม่มีสถานการณ์ใดเลยที่ยูเครน ในฐานะประเทศ จะต้องร้องขอ, แก้สะสม หรือใช้งานอาวุธชนิดนี้”

อนึ่ง การใช้ทุ่นระเบิดไม่ผิดกฎหมายระหว่างประเทศ แต่กว่า 160 ประเทศร่วมลงนามในสนธิสัญญาห้ามใช้ทุ่นระเบิดดังกล่าว ซึ่งห้ามผลิต, ใช้งาน และเก็บสะสมทุ่นระเบิดสังหารบุคคล และยูเครนก็เป็นหนึ่งในประเทศที่ร่วมลงนามด้วย

...

แต่หลังจากรัสเซียควบรวมแคว้นไครเมียเป็นของตัวเองแต่เพียงฝ่ายเดียวในปี 2557 ยูเครนก็ได้แจ้งต่อประเทศที่ร่วมลงนามสนธิสัญญา ว่า การบังคับใช้สัญญาของยูเครน ในดินแดนที่ถูกยึดครอง อาจเป็นไปอย่างจำกัด และไม่มีการรับประกันว่าพวกเขาจะทำตามข้อตกลงในสนธิสัญญา

นับตั้งแต่รัสเซียบุกโจมตียูเครนในเดือนกุมภาพันธ์ 2565 กองทัพรัสเซียก็วางทุ่นระเบิดไปตามพื้นที่ต่างๆ ในยูเครน ทั้งเพื่อปกป้องฐานที่มั่นของตัวเอง และเพื่อชะลอการตอบโต้ของยูเครน

ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign

ที่มา : bbc