ประชาชนในหลายประเทศทั่วโลกต่างให้ความสนใจชมปรากฏการณ์ซูเปอร์มูนครั้งสุดท้ายของปี 2024 โดยสามารถมองเห็นพระจันทร์เต็มดวงขนาดใหญ่กว่าปกติ ส่องสว่างสดใสบนท้องฟ้า

ชาวอาร์เจนตินาจำนวนมากต่างไปรวมตัวกันที่ฝั่งแม่น้ำลาพลาตาในกรุงบัวโนสไอเรสเพื่อชมซูเปอร์มูนในวันศุกร์ตามเวลาในท้องถิ่น โดยซูเปอร์มูนในครั้งนี้ถูกเรียกกันว่า ซูเปอร์มูนบีเวอร์

โดยหนึ่งในทฤษฎีที่ว่าทำไมถึงเรียกว่า "ซูเปอร์มูนบีเวอร์"ก็เพราะยึดตามที่นาซาระบุว่า ช่วงเวลาในเดือนพฤศจิกายนนี้ คือตอนที่บีเวอร์มักจะเริ่มเตรียมสร้างเขื่อนในฤดูหนาวและเก็บสะสมอาหารสำหรับฤดูหนาวที่กำลังจะมาถึง

ขณะที่ชาวเวเนซุเอลาในกรุงการากัส ต่างออกมาปักหลักกันตามจุดชมวิวต่างๆเพื่อถ่ายภาพและชื่นชมความสวยงามสว่างไสวของซูเปอร์มูน บีเวอร์เช่นกัน

เช่นเดียวกับประชาชนในนครการาจีของปากีสถาน และในกรุงไคโรประเทศอียิปต์ ที่สามารถมองเห็นพระจันทร์เต็มดวงที่สว่างไสวโดยที่กรุงไคโรสามารถมองเห็นวิวของพระจันทร์ดวงโตเหนือพีระมิดกีซาชัดเจนและสวยงาม

...

ส่วนในตะวันออกกลาง ซูเปอร์มูนขนาดใหญ่ได้สว่างไสวส่องแสงเหนือท้องฟ้าในกรุงริยาด ประเทศซาอุดิอาระเบีย เมืองลูซาอิลในประเทศกาตาร์ รวมทั้งที่ นครดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ด้วย

โดยซูเปอร์มูนครั้งนี้เป็นปรากฎการณ์ซูเปอร์มูนครั้งสุดท้ายใน 4 ครั้งของปี 2024

โดยซูเปอร์มูนครั้งแรกเกิดขึ้นในเดือนสิงหาคมห่างจากโลก 361,970 กิโลเมตร

ซูเปอร์มูนในเดือนตุลาคมคือซูเปอร์มูนที่ใกล้ที่สุดในปีนี้ โดยห่างจากโลก 357,364 กิโลเมตร

ซูเปอร์มูนในเดือนพฤศจิกายนห่างจากโลก 361,867 กิโลเมตร

ซูเปอร์มูนเป็นปรากฎการณ์พระจันทร์เต็มดวงสอดคล้องกับการโคจรของพระจันทร์ที่เข้ามาใกล้โลกมากผิดปกติ โดยเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นเพียงสามหรือสี่ครั้งต่อปีเท่านั้นและจะเกิดติดกัน เนื่องจากวงโคจรของพระจันทร์มีลักษณะทรงรีและเคลื่อนที่อยู่ตลอดเวลา โดยในเวลาเกิดปรากฏการณ์นี้ พระจันทร์ไม่ได้มีขนาดใหญ่ขึ้นจริง ๆ แต่มันอาจดูเหมือนใหญ่ขึ้น ถึงแม้ว่านักวิทยาศาสตร์จะกล่าวว่า ความแตกต่างนั้นแทบจะไม่สามารถมองเห็นได้เลย คาดว่ากว่าจะได้ชมปรากฏการณ์ซูเปอร์มูนครั้งถัดไปก็คือช่วงเดือนพฤศจิกายนปี 2025.

ที่มา : เอพี , รอยเตอร์

คลิกอ่านข่าวเกี่ยวกับ ซูเปอร์มูน