ช่วงที่ผ่านมามีข่าวคราว “นักท่องเที่ยวล้นเมือง” ตามสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมหลายแห่งในโลกให้ได้ยินบ่อยครั้ง เป็นปัญหาหนักอก กลืนไม่เข้าคายไม่ออก เมื่อนักท่องเที่ยวจำนวนมากล้นทะลักเกินความสามารถในการรองรับ ส่งผลกระทบในแง่ลบต่อวิถีชีวิตของชุมชนไปจนถึงก่อมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม
หลายเมืองไม่ยอมทนอีกต่อไป ขยับออกกฎเกณฑ์ต่างๆ นานา หรือหาวิธีแก้ไขป้องกันเฉพาะหน้า หวังสร้างความสมดุลระหว่างการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจกับคุณภาพชีวิตประชาชน
ฟลอเรนซ์ เมืองอันงดงามในภาคกลางของอิตาลี เป็นเมืองล่าสุดที่ออกกฎเข้มหลายข้อ เพื่อรับมือปัญหานักท่องเที่ยวล้นเมืองโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็น แบนการให้เช่าที่พักระยะสั้น ในย่านศูนย์กลางประวัติศาสตร์ของเมืองเริ่มตั้งแต่ปี 2568 เป็นต้นไป รวมถึง ห้ามไกด์นำเที่ยวใช้ลำโพงขยายเสียง รวมทั้ง ห้ามใช้รถกอล์ฟ หวังเสริมสร้างการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ให้เป็นเมืองที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น สำหรับทั้งผู้มาเยือนและผู้อยู่อาศัย
ที่ผ่านมาเมืองฟลอเรนซ์ต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเกือบ 9 ล้านคนในปี 2566 นอกเหนือจากนักท่องเที่ยวแบบไปเช้าเย็นกลับประมาณ 1.5 ล้านคน ขณะที่ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2567 นี้ มีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมเยือนเมืองฟลอเรนซ์กว่า 7.8 ล้านคน
ก่อนหน้านี้เมืองเวนิส ของอิตาลี เริ่มเก็บเงินค่าธรรมเนียมเข้าเมืองตั้งแต่ปลายเดือน เม.ย.ที่ผ่านมาและกำลังพิจารณาขยายมาตรการนี้ในปีหน้า ส่วนเมืองมิลานก็เพิ่งอนุมัติเพิ่มภาษีนักท่องเที่ยวในปีหน้า เช่นเดียวกับเมืองโบราณปอมเปอีเตรียมจำกัดจำนวนผู้เข้าชม 20,000 คนต่อวัน ส่วนน้ำพุเทรวีอันเปี่ยมมนต์ขลังในกรุงโรมที่ขณะนี้อยู่ระหว่างบูรณะ ก็กำลังวางแผนรับมือนักท่องเที่ยวและผู้แสวงบุญมาเยือนในปีศักดิ์สิทธิ์ 2025 มากกว่า 30 ล้านคน.
...
อมรดา พงศ์อุทัย
คลิกอ่านคอลัมน์ “หน้าต่างโลก” เพิ่มเติม