นายทรัมป์ยืนยันตัวสมาชิกในทีมบริหารชุดใหม่ของเขาเพิ่มอีกหลายคน รวมถึงทูตประจำ UN คนใหม่ และตั้ง ทอม โฮแมน คุมชายแดนดูแลเรื่องผู้อพยพ
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีคนต่อไปของสหรัฐฯ ยืนยันตัวเจ้าหน้าที่ที่จะเข้าร่วมรัฐบาลขชุดใหม่ของเขาเพิ่มเติมในวันจันทร์ที่ 11 พ.ย. 2567 โดยจะตั้งนายทอม โฮแมน วัย 62 ปี ให้รับตำแหน่งผู้บริหารจัดการพรมแดน คาดดูแลเรื่องการเนรเทศผู้อพยพผิดกฎหมาย
นายโฮแมนเคยทำงานให้รัฐบาลทรัมป์ชุดแรกมาแล้ว โดยเป็นรักษาการผู้อำนวยการสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรแห่งสหรัฐอเมริกา (ICE) นอกจากนั้นยังเคยเป็นหัวหน้าตำรวจของ ICE ในการปกครองของประธานาธิบดี บารัค โอบามา และดำเนินการเนรเทศผู้อพยพผิดกฎหมายตามคำสั่งอย่างเป็นทางการมาแล้วหลายครั้ง
คาดกันว่า นายโฮแมนจะเป็นแกนสำคัญในการดำเนินนโยบาย ไม่อดทนต่อผู้อพยพผิดกฎหมาย ของนายทรัมป์ ซึ่งทำให้เด็กผู้อพยพหลายพันคนต้องพลัดพรากจากพ่อแม่ โดยหลังจากได้รับการเสนะชื่อไม่นาน เขาก็ออกมาประกาศว่า “ผู้อพยพผิดกฎหมายความกลัวได้แล้ว” ด้วย
...
ขณะเดียวกันมีการประกาศว่า นายทรัมป์จะตั้ง น.ส. เอลิส สเตฟานิค สส.นิวยอร์ก จากพรรครีพับลิกัน วัย 40 ปี เป็นว่าที่เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำสหประชาชาติคนใหม่ ซึ่งเป็นบทบาทที่สำคัญต่อความร่วมมือและความมั่นคงร่วมกันในระดับโลก ซึ่งตอนนี้กำลังสั่นสะเทือนเพราะสงครามในยูเครนและในตะวันออกกลาง
ในปี 2557 น.ส.สเตฟานิก สร้างสถิติเป็นผู้หญิงอายุน้อยที่สุดที่ชนะเลือกตั้งและได้เข้าสู่รัฐสภาสหรัฐฯ โดยตอนนั้นเธอมีอายุเพียง 30 ปีเท่านั้น และเธอชนะและได้เป็นตัวแทนเขต 21 ของรัฐนิวยอร์กเรื่อยมาจนถึงตอนนี้
นายทรัมป์ยังประกาศเลือกนาย ลี เซลดิน อดีตสมาชิกสภาจากรัฐนิวยอร์ก เป็นผู้อำนวยการสำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อม (EPA) โดยนายทรัมป์ระบุว่า นายเซลดินมีการตัดสินใจเกี่ยวกับการลดข้อจำกัดด้านสิ่งแวดล้อมอย่างรวดเร็วและเป็นธรรม เพื่อปลดปล่อยอำนาจของธุรกิจอเมริกันออกมา มาตรฐานด้านสภาพอากาศ
“เขาจะกำหนดมาตรฐานของการทบทวนและดูแลสภาพอากาศใหม่ ซึ่งนั่นจะทำให้สหรัฐฯ เติบโตอย่างแข็งแรงและมีโครงสร้างที่ดี” นายทรัมป์ระบุในแถลงการณ์
ทั้งนี้ มีข่าวลือด้วยว่า นายทรัมป์จะแต่งตั้งนาย สตีเฟน มิลเลอร์ เห็นรองหัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายนโยบายประจำทำเนียบขาว แต่ยังไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการ อย่างไรก็ตาม นาย เจ.ดี. แวนซ์ ว่าที่รองประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯ ก็ออกมาร่วมแสดงความยินดีกับนายมิลเลอร์ล่วงหน้าแล้ว
ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign
ที่มา : bbc