4 ศพ แรงงานจากอิสราเอลถึงไทย ทูตอิสราเอล พร้อมผู้บริหารระดับสูงจากกระทรวงแรงงาน กระทรวงการต่างประเทศ วางหรีดไว้อาลัยหน้าหีบศพ อธิบดีกรมการกงสุลเตือนแรงงานให้รีบ กลับไทยก่อนสถานการณ์บานปลายแล้วกลับไม่ได้ ยกตัวอย่าง 6 ตัวประกันชุดแรกยังไร้ชะตากรรม ด้านปลัดแรงงานเดินหน้าจัดส่งไปทำงานตามความต้องการของอิสราเอล แต่ต้องไปพื้นที่ปลอดภัย
ร่างไร้วิญญาณของแรงงานไทยที่เสียชีวิตรวม 4 ศพ จากการสู้รบรุนแรงของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอนกับอิสราเอล ถูกส่งกลับถึงไทยแล้ว ทั้งนี้ ที่อาคารคลังสินค้า ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ เวลา 14.05 น. วันที่ 8 พ.ย. สายการบินอิสราเอล แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ LY 081 นำร่างแรงงานไทย 4 ศพ ที่เสียชีวิตจากเหตุความไม่สงบในอิสราเอลเดินทางกลับถึงไทย มีนายสมาสภ์ ปัทมะสุคนธ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน รักษาราชการแทนรองปลัดกระทรวงแรงงาน นายวรวุฒิ พงษ์ประภาพันธ์ อธิบดีกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ และนางออร์นา ซากิฟ เอกอัครราชทูตรัฐอิสราเอลประจำประเทศไทย ร่วมวางพวงหรีดไว้อาลัยหน้าโลงผู้เสียชีวิตทั้ง 4 ราย ประกอบด้วย นายกวีศักดิ์ ปานะนัง และนายธนา ติจันทึก มีภูมิลำเนาอยู่ จ.นครราชสีมา นายอรรคพล วรรณไสย จ.อุดรธานี นายประหยัด พิลาศรัมย์ จ.บุรีรัมย์ จากนั้นนำโลงขึ้นรถตู้ของสุริยาหีบศพเคลื่อนย้ายไปยังภูมิลำเนาให้ญาติประกอบพิธีทางศาสนา
นายสมาสภ์กล่าวว่า แรงงานไทยที่ยังทำงานอยู่ในอิสราเอลต้องร่วมมือกับทางการอิสราเอลอย่างใกล้ชิด เมื่อมีประกาศแจ้งเตือนและอพยพให้ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด โดยจะต้องเข้าในพื้นที่ปลอดภัยและต้องทำงานในพื้นที่สีเขียว ขอให้ติดตามข่าวจากสถานทูตและสำนักงานแรงงานไทย สำหรับคนที่จะเดินทางไปทำงานขอให้แจ้งข้อมูลที่ด่านตรวจคนหางาน ก่อนเดินทางออกนอกประเทศทุกครั้ง กระทรวงแรงงานจะได้ทราบข้อมูลเพื่อติดตามดูแลสิทธิประโยชน์จากภาครัฐ ทั้งยังเป็นการป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่พึงประสงค์อีก ส่วนนายฉัตรชัย ศิลป์ประเสริฐ ชาวชัยภูมิที่บาดเจ็บสาหัส อาการยังน่าเป็นห่วงมาก ยังไม่สามารถเคลื่อนย้ายไปไหนได้
...
ด้านนายวรวุฒิกล่าวว่า อยากให้แรงงานเดินทางกลับในช่วงที่ยังกลับได้ เพราะไม่รู้ว่าสถานการณ์จะเดินไปทางไหน หากต่อไปรุนแรงมากขึ้นท้องฟ้าปิดส่งเครื่องบินไปรับไม่ได้ ถึงตอนนั้นอยากจะกลับก็กลับไม่ได้จะลำบาก คนที่ยังทำงานต้องระวัง ต้องวิ่งหลบในที่ปลอดภัยการอยู่ที่นั่นมานานอาจมองว่ายังปลอดภัยเพราะเคยชินกับการสู้รบที่เกิดต่อเนื่องมานาน ตัวประกันคนไทย 23 คนที่ช่วยออกมาได้ เพราะมีการเจรจาหยุดยิง อีก 6 คน วันนี้ยังไม่รู้ชะตากรรม ซึ่งไม่ใช่แต่คนไทยเท่านั้นคนชาติอื่นและคนอิสราเอลที่ตกเป็นตัวประกันก็ยังไม่รู้ชะตากรรมเหมือนกัน และการหยุดยิงยังไม่เกิดขึ้น
ขณะที่นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวถึงการเยียวยาผู้เสียชีวิตว่า จากการตรวจสอบของสำนักงานประกันสังคมนายกวีศักดิ์ ปานะนังจะได้รับสิทธิประโยชน์บำเหน็จชราภาพ 35,730 บาท นายธนา ติจันทึก ได้รับสิทธิประโยชน์บำเหน็จชราภาพ 41,480 บาท อีก 2 รายไม่ได้เป็นผู้ประกันตน ส่วนเงินสิทธิประโยชน์จากการเป็นสมาชิกกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศทั้ง 4 ราย ได้ยื่นขอรับเงินสงเคราะห์กรณีเดินทางกลับประเทศจากภัยสงครามไปแล้วเมื่อปลายปี 2566 ด้านเงินชดเชยจากสถาบันประกันภัยอิสราเอล กรณีเสียชีวิต ได้แก่ ค่าทำศพ 79,000 บาท ค่าใช้จ่ายในการทำศพเท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 47,000 บาท เงินช่วยเหลือการเป็นหม้ายกรณีมีภรรยาประมาณ 57,000 บาท เงินชดเชยรายดือนและรายปีทางสถานทูตฯอยู่ระหว่างประสานกับอิสราเอลเพื่อให้ได้รับสิทธิประโยชน์ครบถ้วน
“ขณะนี้ไม่มีแรงงานไทยในภาคเหนือของอิสราเอลแล้ว และจะไม่ให้มีเหตุลักลอบเข้าพื้นที่สีแดงอีก ส่วนการจัดส่งไปทำงานก็ยังเป็นปกติไม่มีการชะลอเพราะอิสราเอลยังต้องการแรงงานเยอะมาก คนที่อยากไปทำงานอย่างถูกต้องก็ไม่ได้กังวลอะไร เว้นแต่คนที่ไปแล้วไม่แจ้งจะทำให้ไม่ทราบ ข้อมูล โดยในปี 2568 ตั้งเป้าจัดส่งไปทำงานทั้งในอิสราเอลและประเทศอื่นๆ ประมาณ 1 แสนคน” นายบุญสงค์กล่าว
เย็นวันเดียวกัน นายไชยวัฒน์ ชื่นโกสุมภ์ ผวจ. นครราชสีมา มอบหมายให้นายสานิตย์ ศรีทวี นอภ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา เดินทางไปให้กำลังใจนายชาญชัยและนางจรุง ติจันทึก พ่อแม่นายธนา ติจันทึก อายุ 31 ปี แรงงานไทยที่โดนระเบิดเสียชีวิตที่ประเทศอิสราเอล อยู่บ้านเลขที่ 190 หมู่ 12 บ้านคลองนาดี ต.กฤษณา อ.สีคิ้ว พร้อมดูแลเรื่องการจัดงานศพ นางฉันทนา ผดุงปาน ภรรยานายธนา เผยว่า ก่อนสามีเสียชีวิตเพิ่งโทรศัพท์คุยกันเรื่องการสร้างครอบครัวที่ไทยโดยสามีได้ทำเรื่องจะกลับเมืองไทยสิ้นเดือน พ.ย. แต่กลับมาเสียชีวิตกะทันหัน ทุกวันนี้ยังทำใจไม่ได้และครอบครัวจะทำพิธีฌาปนกิจสามีในวันจันทร์ที่11พ.ย.
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่