ญี่ปุ่นจับผู้กระทำผิดได้ทันที 5 ราย หลังเริ่มบังคับใช้กฎหมายใหม่ เพิ่มโทษจำคุกแก่ผู้ที่ใช้โทรศัพท์มือถือ หรือมึนเมาขณะขี่จักรยาน
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ญี่ปุ่นบังคับใช้กฎหมายใหม่เมื่อวันศุกร์ที่ 1 พ.ย. 2567 ที่ผ่านมา ห้ามใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับขี่จักรยาน ผู้ฝ่าฝืนจะมีโทษจำคุกสูงสุด 6 เดือน หรือปรับเงิน 100,000 เยน (ราว 22,200 บาท) หลังสถิติอุบัติเหตุที่เกี่ยวข้องกับผู้ใช้จักรยานเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ นับตั้งแต่ปี 2564 ที่คนหันมาขี่จักรยานมากขึ้นเพราะการระบาดของโควิด-19
กฎหมายใหม่ยังมีโทษสำหรับผู้ที่ขี่จักรยานขณะอยู่ภายใต้อิทธิพลของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ด้วย โดยผู้กระทำผิดจะมีโทษจำคุกสูงสุด 3 ปี หรือปรับเงิน 500,000 เยน (ราว 111,000 บาท)
โดยไม่กี่ชั่วโมงหลังจากกฎหมายเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันศุกร์ ตำรวจก็จับกุมผู้กระทำผิดได้ทันที 5 ราย ที่โอซากา รวมถึงชาว 2 คนที่ถูกจับได้ว่าขี่จักรยานขณะดื่มสุรา โดยหนึ่งในนั้นขี่จักรยานไปชนกับผู้ขี่จักรยานอีกคัน แต่เคราะห์ดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ
ภายใต้กฎหมายใหม่ ผู้ขับขี่จักรยานที่เป็นต้นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุ จะมีโทษปรับเงินสูงสุด 300,000 เยน (ราว 66,700 บาท) หรือจำคุกไม่เกิน 1 ปี
ทั้งนี้ ถึงแม้ว่าจำนวนอุบัติเหตุจราจรโดยรวมของญี่ปุ่นจะกำลังลดลอง แต่อุบัติเหตุที่เกี่ยวข้องกับจักรยานกลับเพิ่มสูงขึ้น โดยในปี 2566 มีอุบัติเหตุที่เกี่ยวข้องกับจักรยานเกิดขึ้นในญี่ปุ่นมากกว่า 72,000 ครั้ง คิดเป็น 20% ของอุบัติเหตุจราจรทั้งหมดที่เกิดขึ้นในปีเดียวกัน
ในช่วงครึ่งแรกของปี 2567 เกิดอุบัติเหตุเกี่ยวกับการใช้โทรศัพท์มือถือขณะขี่จักรยานจนมีผู้เสียชีวิตไปแล้ว 1 ศพ บาดเจ็บสาหัสอีก 17 ราย นับเป็นตัวเลขสูงสุดนับตั้งแต่ตำรวจญี่ปุ่นเริ่มเก็บสถิติในปี 2540
...
ข้อมูลจากตำรวจระบุอีกว่า ในช่วงปี 2563-2566 เกิดอุบัติเหตุจากการใช้โทรศัพท์มือถือขณะขี่จักรยาน 454 ครั้ง เพิ่มขึ้นจากช่วง 5 ปีก่อนหน้านั้นถึง 50%
อนึ่ง ญี่ปุ่นกำลังพยายามออกกฎข้อบังคับใหม่ๆ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยของการจราจร โดยเมื่อปีก่อน รัฐบาลออกกฎให้ผู้ขี่จักรยานต้องสวมหมวกกันน็อค ขณะที่เมื่อเดือนพฤษภาคม รัฐสภาก็เพิ่งผ่านร่างกฎหมาย อนุญาตให้ตำรวจปรับเงินผู้ขี่จักรยานที่ละเมิดกฎจราจรได้
ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign
ที่มา : bbc