เจ้าชายแอนดรูว์กำลังเผชิญแรงกดดันทางการเงินอย่างหนัก ล่าสุดมีการยืนยันว่า กษัตริย์ชาร์ลส์ที่ 3 หยุดจ่ายค่ารักษาความปลอดภัยของ รอยัลลอดจ์ ซึ่งเป็นที่ประทับของพระองค์แล้ว

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อ 2 พ.ย. 2567 ว่า ในอัตชีวประวัติของราชวงศ์อังกฤษฉบับอัพเดทล่าสุด ซึ่งเขียนโดยนาย โรเบิร์ต ฮาร์ดแมน ระบุว่า คิงชาร์ลส์ที่ 3 ตัดสินพระทัยที่จะหยุดจ่ายค่ารักษาความปลอดภัยที่ รอยัลลอดจ์ ซึ่งเป็นที่ประทับของเจ้าชายแอนดรูว์ และหยุดให้เบี้ยเลี้ยงส่วนพระองค์ ซึ่งคาดว่ารวมกันเป็นจำนวนหลายล้านปอนด์ต่อปี

อัตชีวประวัติระบุว่า “สำนักงานพระคลังข้างที่” (Keeper of the Privy Purse) ซึ่งเป็นผู้ดูแลเรื่องการเงินของเชื้อพระวงศ์ ได้รับคำสั่งให้ยุติการให้เบี้ยเลี้ยงและจ่ายค่ารักษาความปลอดภัยดังกล่าวให้แก่เจ้าชายแอนดรูว์

จนถึงตอนนี้ สำนักพระราชวังบักกิงแฮม และเจ้าชายแอนดรูว์ พระอนุชาในสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ ที่ 3 ซึ่งตอนนี้ไม่มีโฆษกส่วนพระองค์แล้ว ยังไม่ออกมาแสดงความเห็นใดๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้

แต่การถูกตัดงบประมาณล่าสุดหมายความว่า เจ้าชายแอนดรูว์ต้องหาทางจ่ายค่าดูแลและค่ารักษาความปลอดภัยของ รอยัลลอดจ์ ในเมืองวินเซอร์ ซึ่งเช่าจากสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ด้วยพระองค์เอง

เจ้าชายแอนดรูว์เผชิญวิบากกรรมอย่างหนัก หลังจากตกเป็นข่าวพัวพันกับนาย เจฟฟรีย์ เอปสตีน นักธุรกิจชื่อดังชาวอเมริกัน ผู้ต้องหากระทำผิดทางเพศหลายอย่าง ซึ่งเรื่องนี้ทำให้พระองค์ต้องถอนตัวจากการปฏิบัติพระกรณียกิจ ถูกถอดยศทหารและการเป็นองค์อุปถัมภ์องค์กรต่างๆ และต้องใช้ชีวิตเงียบๆ ที่ รอยัลลอดจ์

ในช่วงปีที่ผ่านมา ค่ายสตรีมมิงยักษ์ใหญ่อย่าง เน็ตฟลิกซ์ และ แอมะซอน ก็ปล่อยสารคดีชุดใหม่เกี่ยวกับบทสัมภาษณ์ของเจ้าชายแอนดรูว์ ที่พูดในรายการ BBC Newsnight ในปี 2562 ซึ่งพระองค์ถูกตั้งคำถามเกี่ยวกับความเชื่อมโยงกับนายเอปสตีน

...

อย่างไรก็ตาม เชื่อกันว่าความเคลื่อนไหวของคิงชาร์ลส์ เป็นส่วนหนึ่งของแผนการระยะยาวเกี่ยวกับที่ประทับและการเงินในอนาคตของเจ้าชายแอนดรูว์ โดยแทนที่จะประทับใน รอยัลลอดจ์ ซึ่งค่าใช้จ่ายสูง เจ้าชายแอนดรูว์อาจย้ายไปอยู่ที่ตำหนัก ฟร็อกมอร์ คอทเทจ ซึ่งเคยเป็นที่ประทับของเจ้าชายแฮร์รี่และเมแกน ซึ่งค่าดูแลต่ำกว่ามาก

นอกจากนั้น กษัตริย์ของอังกฤษยังสามารถใช้งานตำหนัก ฟร็อกมอร์ คอทเทจ ได้ตามพระราชอัธยาศัย ต่างจาก รอยัลลอดจ์ ซึ่งเป็นทรัพย์สินของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ และสามารถใช้เพื่อการพาณิชย์อื่นๆ ได้อีก

เจ้าชายแอนดรูว์ทำสัญญาเช่าส่วนพระองค์ของ รอยัลลอดจ์ ตั้งแต่ปี 2546 ไปจนถึงปี 2621 ซึ่งหากพระองค์สามารถจ่ายค่าเช้าได้ ก็จะสามารถประทับอยู่ ณ สถานที่แห่งนี้ได้ต่อไป แต่มีข้อกำหนดว่า หากพระองค์ออกจา รอยัลลอดจ์ ภายใน 25 ปีหลังเริ่มเช่า พระองค์จะได้รับเงินชดเชยตามจำนวนเงินที่พระองค์ใช้เพื่อซ่อมแซมอาคาร ซึ่งจำนวนจะลดลงทุกปี

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เจ้าชายแอนดรูว์จ่ายค่าซ่อมบำรุง รอยัลลอดจ์ ไปแล้วมากกว่า 7.5 ล้านปอนด์ และตอนนี้เหลือเวลาไม่ถึง 4 ปีแล้ว ก่อนที่เงื่อนไขดังกล่าวจะหมดอายุ ดังนั้น เงินชดเชยที่พระองค์จะได้กลับคืนมาจึงเหลือไม่มากนัก

ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign

ที่มา : bbc