เลือกตั้งสหรัฐฯ 2024: เจนนิเฟอร์ โลเปซ ขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ในการหาเสียงของคามาลา แฮร์ริส ที่เมืองลาสเวกัส ซึ่งจัดขึ้นในเวลาเดียวกับที่โดนัลด์ ทรัมป์ กำลังหาเสียงในรัฐแอริโซนา

เจนนิเฟอร์ โลเปซ หรือ "เจโล" นักร้องและดาราชื่อดัง ขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ในการหาเสียงของคามาลา แฮร์ริส ที่เมืองลาสเวกัส ซึ่งจัดขึ้นในเวลาเดียวกับที่โดนัลด์ ทรัมป์ กำลังหาเสียงในรัฐแอริโซนา โดยในคำกล่าวเปิดงาน เธอเรียกการหาเสียงในคืนนี้ว่าเป็น "เวทีที่สำคัญที่สุด" ที่เธอเคยขึ้นเวทีมา และเสริมว่าเธอเชื่อในพลังที่ชาวละตินมี

เจโลกล่าวว่า "เนวาดาคือดินแดนของแฮร์ริส" โดยกล่าวถึงทรัมป์ว่า "เขาพยายามแบ่งแยกพวกเราอยู่เสมอ ที่เมดิสันสแควร์การ์เดน เขาเตือนเราว่าเขาเป็นใคร และเขารู้สึกอย่างไรจริงๆ ไม่ใช่แค่ชาวเปอร์โตริโกเท่านั้นที่รู้สึกขุ่นเคืองในวันนั้น" ซึ่งเธอหมายถึงความคิดเห็นเหยียดเชื้อชาติที่นักแสดงตลกรายหนึ่งกล่าวในการหาเสียงของทรัมป์ ซึ่งเรียกเปอร์โตริโกว่าเป็น "เกาะขยะลอยน้ำ"

เธอกล่าวต่อว่า "ฉันเป็นชาวเปอร์โตริโก และใช่ ฉันเกิดที่นี่ และเราเป็นคนอเมริกัน" "ฉันชอบตอนจบแบบฮอลลีวูด ฉันชอบเวลาที่คนดี หรือในกรณีนี้คือผู้หญิงที่ดี เป็นฝ่ายชนะ" "ฉันเชื่อในพลังของผู้หญิง ผู้หญิงมีอำนาจที่จะสร้างความแตกต่างในการเลือกตั้งครั้งนี้" และเสริมว่า "ฉันเชื่อในพลังของชาวละติน"

ผู้มีสิทธิเลือกตั้งชาวฮิสแปนิกเป็นกลุ่มผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่สำคัญในรัฐเนวาดาซึ่งเป็นรัฐสมรภูมิ ซึ่งเป็นตัวแทนของประชากรประมาณหนึ่งในสี่ของรัฐ และเห็นได้ชัดว่าแฮร์ริสและทีมงานของเธอตระหนักดีถึงเรื่องนี้ ด้วยการนำทั้งโลเปซ และ "มานา" วงดนตรีเม็กซิกันชื่อดังมาขึ้นเวทีในครั้งนี้

ด้านแฮร์ริส กล่าวปราศรัยว่า สหรัฐฯ กำลังเบื่อหน่ายกับ "ความแตกแยก" ที่เธอกล่าวว่าโดนัลด์ ทรัมป์ เป็นผู้สร้างขึ้น รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยังกล่าวกับฝูงชนว่าเธอไม่กลัวการต่อสู้ที่ยากลำบาก และ "เราจะชนะ"

...

แฮร์ริสยังพูดถึงข้อเสนอหลักด้านนโยบายเศรษฐกิจ ซึ่งเธอกล่าวว่าจะเป็นสิ่งที่เธอให้ความสำคัญหากเธอได้รับชัยชนะ เธอกล่าวว่าเธอจะ "ต่อสู้เพื่อคนทำงาน" โดยการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำและลดภาษีทิปสำหรับคนทำงาน ด้านฝูงชนตะโกนว่า "เราจะไม่ถอยหลังกลับ" ซึ่งเป็นหนึ่งในสโลแกนการหาเสียงของแฮร์ริส

ทั้งนี้ เหลือเวลาอีกเพียง 5 วันก่อนถึงวันเลือกตั้ง เนวาดาเป็นหนึ่งในรัฐสวิง สเตท 7 รัฐสำคัญที่จะตัดสินผลการเลือกตั้ง โดยในปี 2020 ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ชนะด้วยคะแนนเสียงที่ห่างกันเพียงเล็กน้อยที่ 33,500 คะแนน

ด้านโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวในการให้สัมภาษณ์ในรัฐแอริโซนา หลังมีผู้ถามว่า ผู้สนับสนุนคนสำคัญสองคนของเขาอย่างนายอีลอน มัสก์ และนาย อาร์เอฟเค จูเนียร์ จะได้รับการเสนอตำแหน่งในรัฐบาลหรือไม่ หากเขาชนะการเลือกตั้ง

ทรัมป์ย้ำว่าเขาต้องการให้มัสก์รับบทบาทที่ไม่ระบุซึ่งมีหน้าที่ในการหาเงิน เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายด้านงบประมาณของรัฐบาล อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ยังคงปฏิเสธไม่ให้มัสก์เข้าร่วมคณะรัฐมนตรี โดยกล่าวว่า "มัสก์ไม่ต้องการเป็นรัฐมนตรี แม้ผมอยากจะให้เขาเป็น แต่เขากำลังทำบางอย่างอีกสองสามเรื่อง"

ทรัมป์หันไปหาพูดคุยถึงนายอาร์เอฟเค จูเนียร์ ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนทฤษฎีสมคบคิดเกี่ยวกับวัคซีน ก่อนหน้านี้มีรายงานเกี่ยวกับผู้ช่วยของทรัมป์ ที่ดูเหมือนจะปฏิเสธไม่ให้อาร์เอฟเค จูเนียร์ เป็นรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข

อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนทรัมป์จะเปิดช่องให้นายอาร์เอฟเค จูเนียร์ เข้ามารับบทบาทในด้านสาธารณสุขอีกครั้ง โดยกล่าวว่า "เขาต้องการเข้ามาจัดการทั้งในเรื่องยาฆ่าแมลงและสิ่งต่างๆ มากมาย ผมบอกเขาว่าเขาทำได้ เขาทำได้ทุกอย่างที่เขาต้องการ".

ที่มา BBC

อ่านข่าวเพิ่มเติม https://www.thairath.co.th/news/foreign

ข่าวและบทความน่าสนใจ เลือกตั้งสหรัฐฯ 2024