ชาวอเมริกันออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้าเกือบ 62 ล้านคนแล้ว ทำลายสถิติของปี 2020 ขณะที่ทรัมป์กับแฮร์ริส มุ่งหาเสียงรัฐทางใต้ ไม่กี่วันก่อนการเลือกตั้งจะมาถึง

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า Election Lab หน่วยวิเคราะห์การลงคะแนนเสียงและการเลือกตั้ง ของมหาวิทยาลัยฟลอริดา ระบุในวันที่ 31 ต.ค. 2567 ว่า ตอนนี้มีชาวอเมริกันที่ใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้าแล้ว 61.9 ล้านคน ทำลายสถิติของปี 2563 ที่มีผู้ออกมาใช้สิทธิ์ล่วงหน้าเกือบ 60 ล้านคน

การลงคะแนนเสียงล่วงหน้าของสหรัฐฯ นั้น ชาวอเมริกันสามารถมาลงคะแนนด้วยตัวเองที่หน่วยเลือกตั้ง หรือโดยการส่งจดหมายก่อนจะถึงวันเลือกตั้ง ซึ่งในอดีตเป็นวิธีที่ฝ่ายผู้สนับสนุนเดโมเครตนิยมมาก และเชื่อกันว่าเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ โจ ไบเดน ชนะการเลือกตั้งเมื่อปี ค.ศ. 2020

ในการเลือกตั้งปี ค.ศ. 2024 นี้ ฝ่ายรีพับลิกันเริ่มหันมากระตุ้นให้ผู้สนับสนุนไปใช้สิทธิ์ล่วงหน้ากันมากขึ้น หลังจากเคยวิพากษ์วิจารณ์วิธีการนี้อย่างหนักในการเลือกตั้งครั้งก่อน ว่าไม่โปร่งใสและเต็มไปด้วยการฉ้อฉล แม้ว่าผลการศึกษามากมาย ทั้งในระดับรัฐและระดับประเทศจะพบว่า การโหวตทางไปรษณีย์มีอัตราการโกงต่ำมากก็ตาม

ด้วยระยะเวลาที่เหลือเพียง 5 วันเท่านั้นก่อนที่การเลือกตั้งจะมาถึง ทั้งโดนัลด์ ทรัมป์ และคามาลา แฮร์ริส ต่างมุ่งหาเสียงในรัฐทางตะวันตกเฉียงใต้ หรือที่เรียกกว่า “รัฐซันเบลท์” (Sun Belt)

โดยในวันพฤหัสบดี แฮร์ริสจะเริ่มหาเสียงที่เมืองฟินิกซ์ ในรัฐแอริโซนา จากนั้นจะมุ่งหน้าไปที่เมือง เรโน รัฐเนวาดา และในคืนวันเดียวกัน เธอจะมีงานหาเสียงใหญ่ที่ลาสเวกัส ซึ่งจะมีวงดนตรีป๊อปร็อกสัญชาติเม็กซิโกอย่าง “มานา” และ เจนนิเฟอร์ โลเปซ ขึ้นเวทีด้วย

...

ส่วนโดนัลด์ ทรัมป์ จะเริ่มหาเสียงที่เมือง อัลบูเคอร์เค (Albuquerque) ในรัฐนิวเม็กซิโก ก่อนจะเดินทางไปยังเมืองเฮนเดอร์สัน รัฐเนวาดา จากนั้นนายทรัมป์ จะไปเมืองเกลนเดล รัฐแอริโซนา เพื่อปรากฏตัวในทัวร์สัมภาษณ์สดรอบสุดท้ายของนาย ทักเกอร์ คาร์ลสัน นักวิจารณ์การเมืองชื่อดัง ในคืนวันเดียวกันนี้

ด้านผู้สมัครชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีทั้ง 2 คน ก็จะออกเดินรทางหาเสียงด้วย โดย เจ.ดี.แวนซ์ จะไปกล่าวปราศรัยที่มหาวิทยาลัย ไฮ พอยท์ ในรัฐนอร์ท แคโรไลนา ส่วน ทิม วอลซ์ จะไปปราศรัยที่เขต บัคส์ เคาน์ตี รัฐเพนซิลเวเนีย ตามด้วยที่เมืองอีรี ในช่วงบ่าย

ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign

ข่าวและบทความน่าสนใจ เลือกตั้งสหรัฐฯ 2024

ที่มา : bbc