ไต้หวันสั่งปิดสถานที่ราชการและโรงเรียนบนเกาะรอบนอกบางแห่ง และสั่งชาวประมงให้เตรียมพร้อม ขณะที่ทางการเตือนว่าซูเปอร์ไต้ฝุ่นกองเร็ยที่กำลังพัดเข้าใกล้อาจทำให้เกิดดินถล่มได้

ไต้หวันสั่งปิดสถานที่ราชการและโรงเรียนบนเกาะรอบนอกบางแห่ง และสั่งชาวประมงให้เตรียมพร้อม ขณะที่ทางการเตือนว่าซูเปอร์ไต้ฝุ่นกองเร็ยที่กำลังพัดเข้าใกล้อาจทำให้เกิดดินถล่ม คาดว่าลมแรงและฝนตกหนักจะพัดถล่มเกาะไต้หวัน ก่อนที่พายุจะพัดขึ้นฝั่งทางตะวันออกเฉียงใต้ในช่วงบ่ายวันพฤหัสบดี (31 ต.ค.) โดยศูนย์เตือนภัยไต้ฝุ่นระบุในรายงานอัปเดตล่าสุดว่า ซูเปอร์ไต้ฝุ่นกองเร็ย มีความเร็วลมต่อเนื่องสูงสุด 240 กม./ชม. ด้วยความเร็วประมาณ 19 กม./ชม. ขณะเข้าใกล้ไต้หวัน

สำนักงานอุตุนิยมวิทยากลางของไต้หวันกล่าวว่า คาดว่าพายุกองเร็ยจะทำให้เกิดฝนหนักที่สุดบริเวณชายฝั่งตะวันออกและเหนือของเกาะ และเขตภูเขาในภาคกลางและภาคใต้ 

นายชาง ชุนเหยา นักพยากรณ์อากาศ กล่าวว่า คาดว่าเขตอี๋หลานและเขตฮวาเหลียนทางตะวันออก จะได้รับผลกระทบหนักที่สุด โดยปริมาณฝนสะสมตั้งแต่วันอังคารถึงวันศุกร์จะอยู่ที่ 800-1,200 มิลลิลิตร "จากการคาดการณ์เส้นทางของพายุไต้ฝุ่น เราแนะนำให้เขตอี๋หลาน ฮวาเหลียน และไถตง ใช้มาตรการป้องกันดินถล่มและเศษซากสิ่งของต่างๆ ในพื้นที่ที่คาดว่าจะมีฝนตกหนัก"

การเรียนการสอนและสถานที่ราชการบนเกาะหลักสองเกาะในเขตไถตง ถูกแจ้งให้ปิดทำการชั่วคราว เนื่องจากคาดว่าจะถูกพายุไต้ฝุ่นโจมตีโดยตรง หากพิจารณาตามเส้นทางปัจจุบันของพายุ ส่วนบริการเรือข้ามฟากระหว่างเกาะจินเหมินของไต้หวัน และเมืองเซียะเหมินของจีน ก็ถูกระงับเช่นกัน

ไต้หวันมักเกิดพายุพัดถล่มบ่อยครั้งตั้งแต่เดือนกรกฎาคมถึงตุลาคม แต่นายชางกล่าวว่าเป็นเรื่องแปลกที่พายุไต้ฝุ่นที่มีพลังมากจะพัดถล่มเกาะในช่วงปลายปี "ไต้ฝุ่นระดับปานกลางหรือรุนแรงกว่าจะพัดขึ้นฝั่งในช่วงปลายเดือนตุลาคมนั้นเกิดขึ้นได้ยากมาก โดยครั้งล่าสุดที่พายุไต้ฝุ่นนกเตน พัดขึ้นฝั่งในเดือนตุลาคม 2004" 

...

นักวิทยาศาสตร์เตือนว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทำให้พายุรุนแรงขึ้น ส่งผลให้เกิดฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลัน และลมกระโชกแรง

ในเดือนกรกฎาคม พายุแกมี กลายเป็นพายุไต้ฝุ่นที่รุนแรงที่สุดที่พัดขึ้นฝั่งในไต้หวันในรอบ 8 ปี คร่าชีวิตผู้คนไปอย่างน้อย 10 ราย บาดเจ็บหลายร้อยราย และทำให้เกิดน้ำท่วมเป็นวงกว้างในเมืองเกาสง

หลังจากนั้นในช่วงต้นเดือนตุลาคม พายุกระท้อนก็พัดขึ้นฝั่ง ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 4 ราย บาดเจ็บหลายร้อยราย รวมถึงทำให้เกิดโคลนถล่ม น้ำท่วม และลมกระโชกแรงเป็นประวัติการณ์.

ที่มา CNA

อ่านข่าวเพิ่มเติม https://www.thairath.co.th/news/foreign