บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของญี่ปุ่น เริ่มทำการตัดต้นไม้ในพื้นที่สวนเมจิจิงกุไกเอ็น ใจกลางกรุงโตเกียว เพื่อสร้างตึกระฟ้า แม้มีผู้ออกมาแสดงการคัดค้านจำนวนมาก

บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของญี่ปุ่น เริ่มทำการตัดต้นไม้ในพื้นที่สวนเมจิจิงกุไกเอ็น ใจกลางกรุงโตเกียว แม้มีผู้ออกมาแสดงการคัดค้านจำนวนมาก ความเคลื่อนไหวดังกล่าวดำเนินต่อไปแม้จะมีการคัดค้านจากผู้สนับสนุนการอนุรักษ์ หลังจากที่ทางการกรุงโตเกียวอนุมัติแผนแก้ไขที่เสนอเมื่อสัปดาห์ที่แล้วโดยบริษัท มิตซุย ฟูโดซัง บริษัทด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งยอมรับที่จะตัดต้นไม้น้อยลง

แผนพัฒนาที่ดินระยะเวลา 10 ปี ของบริษัท มิตซุย ฟูโดซัง มูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ จะมีการทำลายสนามกีฬาเมจิจิงกู และสนามรักบี้ชิจิบุโนะมิยะ และสร้างสนามกีฬาขึ้นมาใหม่ รวมถึงการสร้างอาคารสำนักงาน 3 แห่ง โดยมีกำหนดแล้วเสร็จในปี 2036

ผู้คนจำนวนหนึ่งออกมาประท้วงการตัดต้นไม้ครั้งนี้ ในขณะที่การตัดต้นไม้เริ่มต้นขึ้นในพื้นสวนเมจิจิงกุไกเอ็น ที่มีชื่อเสียงเรื่องถนนที่มีต้นแปะก๊วยตั้งเรียงรายจำนวนมาก ซึ่งล่าช้าจากแผนเดิมที่จะเริ่มในฤดูใบไม้ร่วงปีที่แล้ว โดยโครงการนี้ถูกเลื่อนออกไป หลังจากการคัดค้านจากบุคคลสำคัญ รวมถึงนักแต่งเพลงและนักดนตรีชาวญี่ปุ่น ริวอิจิ ซากาโมโตะ ผู้ล่วงลับ และสภาการโบราณสถานระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นหน่วยงานหนึ่งขององค์การยูเนสโก

ผู้ประท้วงยังรวมถึงนางมิกิโกะ อิชิกาวะ ผู้อำนวยการคณะกรรมการแห่งชาติของสภาการโบราณสถานระหว่างประเทศของญี่ปุ่น ที่ยืนประท้วงบริเวณประตูทางเข้าไซต์ก่อสร้าง และยืนกรานว่าเธอจะไม่ขยับจนกว่าผู้จัดการสถานที่จะอธิบายให้เธอฟังว่าทำไมพวกเขาจึงต้องตัดต้นไม้ เพื่อคัดค้านการทำลายต้นไม้ในกรุงโตเกียวที่แทบไม่มีพื้นที่สีเขียว และเห็นว่าสวนสาธารณะหลายแห่งถูกส่งมอบเพื่อผลประโยชน์ทางการค้า โดยแผนดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจากนางยูอิโกะ โคอิเกะ ผู้ว่าการกรุงโตเกียว ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นรัฐมนตรีสิ่งแวดล้อมของญี่ปุ่น

...

ในเดือนกันยายนปีที่แล้ว รัฐบาลกรุงโตเกียวขอให้บริษัทผู้พัฒนารวบรวมมาตรการในการอนุรักษ์ต้นไม้ และบริษัทได้เสนอแผนแก้ไขเมื่อเดือนที่แล้ว โดยแผนใหม่จะลดจำนวนการตัดต้นไม้ที่มีความสูงตั้งแต่ 3 เมตรขึ้นไป ลงเหลือ 619 ต้นจาก 743 ต้น และการรับประกันว่าสนามเบสบอลแห่งใหม่จะถูกสร้างขึ้นห่างจากถนนที่มีต้นแปะก๊วย 18 เมตร แทนที่จะเป็น 8 เมตร จากแผนเดิมก่อนหน้านี้ ขณะที่ผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงต่อโครงการยังอยู่ระหว่างการพิจารณา.

ที่มา KYODO

อ่านข่าวเพิ่มเติม https://www.thairath.co.th/news/foreign