เอฟบีไอกำลังสืบสวนข้อเท็จจริง ของเหตุไฟไหม้ตู้หย่อนบัตรเลือกตั้งล่วงหน้า 2 กล่องที่รัฐโอเรกอน กับที่รัฐวอชิงตัน โดยคาดว่าเป็นการวางเพลิง
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เกิดเหตุเพลิงไหม้ตู้หย่อนบัตรเลือกตั้งล่วงหน้าที่เมือง พอร์ทแลนด์ รัฐโอเรกอน กับที่เมืองแวนคูเวอร์ รัฐวอชิงตัน เมื่อช่วงเช้าวันจันทร์ที่ 28 ต.ค. 2567 ซึ่งเจ้าหน้าที่เอฟบีไอ กำลังดำเนินการสืบสวนข้อเท็จจริงของ 2 เหตุการณ์นี้ กับอีกเหตุการณ์ลักษณะคล้ายกันที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงต้นเดือน ที่รัฐวอชิงตัน
ตำรวจระบุว่า วัสดุจากอุปกรณ์วางเพลิง แสดงให้เห็นว่าเหตุไฟไหม้ทั้ง 3 ครั้งมีความเกี่ยวข้องกัน และเจ้าหน้าที่พบ “ยานพาหนะต้องสงสัย” ที่ถูกพบเห็นว่าขับออกไปจากจุดเกิดเหตุ ในเหตุไฟไหม้ที่โอเรกอนแล้ว
ทั้งนี้ ตามการเปิดเผยของตำรวจ พวกเขาได้รับแจ้งในเวลาประมาณ 3.30 น. วันจันทร์ ว่าเกิดเหตุเพลิงไหม้ในเมืองพอร์ทแลนด์ โดยมีอุปกรณ์วางเพลิงอยู่ภายในตู้ และเจ้าหน้าที่ดำเนินการดับไฟเรียบร้อย
ในช่วงวันเดียวกัน มีรายงานว่าเกิดไฟไหม้ตู้หย่อนบัตรเลือกตั้งกล่องที่ 2 ที่สถานีรถประจำทาง ในเมืองแวนคูเวอร์ รัฐวอชิงตัน โดยตำรวจเมืองแวนคูเวอร์เผยว่า ตอนไปถึงที่เกิดเหตุ พวกเขาพบวัตถุต้องสงสัยวางอยู่ข้างกล่อง ซึ่งกำลังถูกไฟไหม้และมีควันโขมง
สำนักข่าว เอพี รายงานว่า เมื่อ 8 ต.ค.ที่ผ่านมา ก็เกิดเหตุเพลิงไหม้ตู้หย่อนบัตรเลือกตั้งที่เมืองแวนคูเวอร์ และมีการพบอุปกรณ์จุดไฟเช่นกัน
นายสตีฟ เบิร์นด์ โฆษกของสำนักงานสืบสวนกลาง (เอฟบีไอ) สำนักงานเมืองซีแอตเติล รัฐวอชิงตัน ระบุว่า เจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางกำลังดำนเนิการสืบสวนเพื่อช่วยเหลือตำรวจท้องถิ่นและตำรวจรัฐ
ด้าน น.ส.ลอรา เชพาร์ด โฆษกสำนักงานบริหารเมืองแวนคูเวอร์กล่าวว่า เจ้าหน้าที่สำนักงานเลือกตั้งเรียกร้องให้ประชาชน ที่มาหย่อนบัตรเลือกตั้งล่วงหน้าหลังเวลา 11.00 น. วันเสาร์ (26 ต.ค) ให้ติดต่อพวกเขา เพื่อตรวจสอบสถานะบัตรเลือกตั้ง
...
ส่วนนาย สตีฟ ฮอบส์ เลขาธิการรัฐวอชิงตัน ประณามเหตุเพลิงไหม้ที่เกิดขึ้น และยอมรับว่ามีบัตรเลือกตั้งจำนวนหนึ่งเสียหาย “ผมขอประณามอย่างรุนแรงต่อพฤติกรรมสร้างความหวาดกลัวใดๆ ที่มีเป้าหมายเพื่อขัดขวางการเลือกตั้งอย่างเป็นธรรมและถูกต้องตามกฎหมายในรัฐวอชิงตัน”
นายฮอบส์ย้ำด้วยว่า เขายังมั่นใจในความสามารถของเจ้าหน้าที่เลือกตั้งของรัฐวอชิงตัน ว่าจะสามารถทำใหการเลือกตั้งปลอดภัยสำหรับผู้ใช้สิทธิ์ทุกคน
ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign
ติดตามการเลือกตั้งสหรัฐฯ 2024 ได้ที่ ไทยรัฐออนไลน์ https://www.thairath.co.th/uselection2024
ที่มา : cnn