รมว.กลาโหมสหรัฐฯยืนยันว่า เกาหลีเหนือได้ส่งทหาร 3,000 นายไปที่รัสเซียและอาจมีการไปช่วยรัสเซียสู้รบกับยูเครน โดยมองว่าเป็นสถานการณ์ที่ร้ายแรง อาจส่งผลสะเทือนทั้งในยุโรปและเอเชีย
วันที่ 24 ตุลาคม 2567 เว็บไซต์ข่าวนิวยอร์ก ไทมส์ รายงานว่า นายลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯ กล่าวยืนยันว่า เกาหลีเหนือส่งทหาร 3,000 นายไปรัสเซีย และอาจช่วยรบกับยูเครน ซึ่งนับเป็นสถานการณ์ที่ร้ายแรงมาก แม้เขาจะกล่าวว่า ยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัดว่าทหารกลุ่มนี้ถูกส่งไปทำอะไรก็ตาม เพราะคงไม่มีใครรู้เห็น
นายออสตินกล่าวกับผู้สื่อข่าวที่ฐานทัพทหารในอิตาลีว่า เกาหลีเหนือส่งทหารไปรัสเซียเพื่อร่วมต่อสู้กับยูเครน ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในความพยายามของรัสเซียในการเอาชนะสงครามครั้งนี้ และการที่เกาหลีเหนือส่งทหารไปรัสเซียนั้นถือเป็นการยกระดับสถานการณ์ให้ร้ายแรงขึ้นมาก และอาจส่งผลสะเทือนทั้งในยุโรปและเอเชีย
เขากล่าวว่า ไม่มีใครเห็นว่าทหารกลุ่มนี้ทำอะไรอยู่กันแน่ และเขามองว่าความต้องการทหารรับจ้างจากเกาหลีเหนือของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินเป็นสัญญาณของความสิ้นหวังที่บ่งชี้ว่าเขาอาจประสบปัญหาหนักกว่าที่คนส่วนใหญ่จะรับรู้ได้
ทางด้านนายจอห์น เคอร์บี้ โฆษกทำเนียบขาว กล่าวว่าการส่งทหารเกาหลีเหนือ 3,000 นายไปประจำการอยู่ในรัสเซียนั้น ชี้ให้เห็นถึงความสัมพันธ์ทางทหารที่ขยายกว้างระหว่างสองประเทศ เนื่องจากรัสเซียแสวงหาอาวุธและทหารเพื่อยึดพื้นที่ในสงครามที่ตึงเครียดมานานมากกว่า 2 ปี
จอห์น เคอร์บี้ โฆษกความมั่นคงแห่งชาติทำเนียบขาว กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ ปูตินสามารถซื้อปืนใหญ่จากเกาหลีเหนือได้ เขาสามารถซื้อขีปนาวุธพิสัยไกลจากเกาหลีเหนือซึ่งเขาเคยใช้โจมตียูเครนได้ โดยสหรัฐเชื่อว่าทหารเกาหลีเหนืออย่างน้อย 3,000 นายเดินทางโดยเรือมายังวลาดิวอสต็อก ซึ่งเป็นท่าเรือแปซิฟิกที่ใหญ่ที่สุดของรัสเซีย ในช่วงต้นถึงกลางเดือนตุลาคม ในขณะที่สหรัฐฯ ยังคงประเมินสถานการณ์ต่อไป
...
ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญมองว่าเกาหลีเหนือต้องการการสนับสนุนทางเศรษฐกิจจากรัสเซีย และความช่วยเหลือในการปรับปรุงระบบอาวุธแบบธรรมดาที่ล้าสมัยของเกาหลีเหนือ รวมไปถึงการถ่ายโอนเทคโนโลยีอาวุธไฮเทค ขณะที่กองทัพเกาหลีเหนือมีทหาร 1.2 ล้านนาย ซึ่งถือเป็นกองทัพที่มีทหารประจำการมากที่สุดในโลก แต่ทหารเกาหลีเหนือไม่ได้สู้รบในความขัดแย้งขนาดใหญ่เลย นับตั้งแต่สงครามเกาหลีในปี 2493-2496.