ตำรวจฝรั่งเศส พบศพวัยรุ่นหญิงวัย 15 ปีที่หายตัวไปอย่างลึกลับเมื่อปีก่อนแล้ว หลังจากพยายามตามหามานานกว่า 13 เดือน
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ตำรวจของประเทศฝรั่งเศส พบศพของ “ลีนา” หญิงวัยรุ่นอายุ 15 ปี ที่หายตัวไปเมื่อ 13 เดือนก่อนแล้ว หลังจากพยายามค้นหามาอย่างยาวนาน และครอบคลุมพื้นที่กว่าครึ่งของประเทศ นับตั้งแต่เธอหายตัวไปอย่างลึกลับเมื่อ 23 ก.ย. 2566
ในช่วงที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่พยายามตรวจสอบรายงานหลายพันฉบับ สอบถามผู้ที่อาจเห็นเหตุการณ์หลายร้อยคน และวิเคราะห์รถยนต์อีกหลายร้อยคัน
แต่กลับเป็นข้อมูลจีพีเอส ที่ตำรวจดึงมาจากรถยนต์ของผู้ต้องสงสัยฆาตกรรมลีนา ที่พาพวกเขาไปพบศพของเธอในวันพุธที่ 16 ต.ค. 2567 ที่ป่าแห่งหนึ่งในจังหวัดเนียฟวร์ (Nièvre) ห่างจากเมืองอัลซาซ (Alsace) ทางตะวันออกของฝรั่งเศส ที่ลีนาหายตัวไปประมาณ 310 ไมล์
นายอเล็กซานเดอร์ เชฟริเยร์ รักษาการณ์อัยการใหญ่เมืองสตราสบูร์ก กล่าวว่า ผลการตรวจสอบดีเอ็นเอยืนยันว่า ศพที่พบเป็นของลีนาจริง
ทั้งนี้ สัญญาณจากสมาร์ทโฟนของลีนาขาดหายไปเมื่อเวลา 11.22 น. ของวันที่ 23 ก.ย. 2566 ในขณะที่เธอกำลังเดินบนถนนเล็กๆ เพื่อมุ่งหน้าไปยังสถานี แซงต์ เบลส ลา โรช (Saint-Blaise-La-Roche) เพื่อขึ้นรถไฟไปยังเมืองสตราสบูร์ก เพือพบกับแฟนหนุ่ม
สัปดาห์ต่อมา ตำรวจจึงเริ่มการสืบสวนคดีนี้ในฐานะคดีลักพาตัว ซึ่งหลังจากการสืบสวนผ่านไปหลายเดือนโดยไม่มีความคืบหน้าใดๆ ตำรวจก็พบว่า มีรถยนต์ ฟอร์ด พูมา คันหนึ่ง อยู่ใกล้กับจุดที่ลีนาหายตัวไปในวันเกิดเหตุ และพบว่ารถคันดังกล่าวเป็นของนาย ซามูเอล โกแนง (Samuel Gonin) ซึ่งกลายเป็นผู้ต้องสงสัยหลัก
อย่างไรก็ตาม นายโกแนงปลิดชีวิตตัวเองในเดือนกรกฎาคม ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะได้สอบปากคำเขา โดยทิ้งจดหมายลาตายเอาไว้ ซึ่งข้อความส่วนหนึ่งระบุว่า “ผมสูญเสียเกียรติ, ศักดิ์ศรี และความเป็นมนุษย์ ผมต้องไป ผมไม่รู้ว่าจะควบคุมตัวเองได้อย่างไร มันเกิดขึ้นเร็วมาก”
...
เจ้าหน้าที่จึงตัดสินใจตรวจสอบข้อมูลพิกัดของรถยนต์ของนายโกแนง จนพบว่า รถคนนี้เดินทางไปหลายจุด รวมถึงจึดหนึ่งที่เกิดขึ้น 1 วันหลังจากลีนาหายตัวไป ซึ่งนั้นนำตำรวจไปสู่การพบร่างของวัยรุ่นหญิงอายุ 15 ปีรายนี้ โดยร่างของเธอจมอยู่ใต้น้ำในเขื่อนกั้นน้ำ
ขณะนี้ เจ้าหน้าที่กำลังทำการชันสูตรพลิกศพ เพื่อหาสาเหตุการณ์เสียชีวิตของหญิงเคราะห์ร้ายรายนี้ต่อไป แม้ว่าสภาพศพจะเสื่อมถอยไปมากแล้วก็ตาม
ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign
ที่มา : cbsnews