บริษัท ไมโครซอฟท์ ยักษ์ใหญ่เทคโนโลยีของสหรัฐฯ ประกาศเมื่อเดือน พ.ค. จะสร้างศูนย์ข้อมูลแห่งแรกแห่งแรกในไทย เพื่อส่งเสริมโครงสร้างพื้นฐานด้านคลาวด์และปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) รวมถึงเปิดแผนลงทุนในอินโดนีเซีย มาเลเซีย และเมื่อเร็วๆนี้ บริษัท กูเกิล จากสหรัฐฯ ก็ประกาศแผนลงทุน 1,000 ล้านดอลลาร์ หรือราว 32,590 ล้านบาท สร้างโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลในไทย รวมถึงศูนย์ข้อมูลแห่งใหม่ ที่จะช่วยสร้างงาน 14,000 ตำแหน่ง ก่อนหน้านี้ กูเกิล ก็ประกาศลงทุน 2,000 ล้าน ดอลลาร์ หรือราว 65,240 ล้านบาท ในมาเลเซีย
จริงๆ แล้วไม่ได้มีแค่ไมโครซอฟท์ และกูเกิลเท่านั้นที่มุ่งหน้าทุ่มเม็ดเงินลงทุนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่เคยถูกมองว่าเป็นพื้นที่ห่างไกลด้านเทคโนโลยี แต่ ยังมีอีก 3 บริษัทใหญ่ที่ตกลงจะลงทุนครั้งใหญ่ในภูมิภาคนี้ อย่าง แอปเปิล ที่ประกาศลงทุน 250 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 8,160 ล้านบาทในสิงคโปร์ เพื่อขยายการดำเนินงานและสร้างบทบาทใหม่ในด้านปัญญาประดิษฐ์ ส่วน อินวิเดีย ประกาศแผนลงทุน 200 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 6,530 ล้านบาท ในการจัดตั้งศูนย์ปัญญาประดิษฐ์ในอินโดนีเซีย
ขณะที่บริษัท แอมะซอน ประกาศสุดฮือฮากับแผนลงทุน 8,880 ล้านดอลลาร์หรือกว่า 290,000 ล้านบาท เพื่อขยายโครง สร้างพื้นฐานระบบคลาวด์ในสิงคโปร์ ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างบทบาทของสิงคโปร์เป็นศูนย์กลางนวัตกรรมระดับภูมิภาคและผู้นำระดับโลกด้านความสามารถในการแข่งขันทางดิจิทัล
การตัดสินใจของบิ๊กเทคเหล่านี้ทำให้จับตาว่าเอเชียอาคเนย์ กำลังมีอนาคตสดใสและจะก้าวขึ้นมาเป็นศูนย์กลางด้านเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว เนื่องจากประชากรวัยหนุ่มสาว ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สนใจการสตรีม วิดีโอ ช็อปปิ้งออนไลน์ ปัญญาประดิษฐ์
อีกทั้งการก่อเกิดและก้าวหน้าของปัญญาประดิษฐ์ ได้กระตุ้นให้ผู้นำด้านเทคโนโลยีพวกนี้แสวงหาแหล่งการเติบโตใหม่ๆเพื่อวางโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลให้กับภูมิภาคที่มาลงทุน รวมถึงความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้น ระหว่างจีนและสหรัฐฯ ก็น่าจะเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้เอเชียตะวันออกเฉียงใต้กลายเป็นหมุดหมายใหม่ของยักษ์ใหญ่เทคโนโลยีเหล่านี้
...
ภัค เศารยะ
คลิกอ่านคอลัมน์ “หน้าต่างโลก” เพิ่มเติม