น้ำท่วมในประเทศเนปาลเริ่มลดลงในหลายพื้นที่แล้ว แต่เจ้าหน้าที่ยังคงออกปฏิบัติการค้นหาและช่วยเหลือ ในขณะที่จำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็นอย่างน้อย 209 ศพแล้ว

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ทีมค้นหาและกู้ภัยยังคงออกปฏิบัติการในกรุงกาฐมาณฑุ ของเนปาล เมื่อวันจันทร์ที่ 30 ก.ย. 2567 เพื่อค้นหาผู้เคราะห์ร้าย ที่อยู่ภายในซากปรักหักพักของบ้านเรือน หลังจากระดับน้ำท่วมในหลายพื้นที่ลดลงแล้ว โดยจนถึงตอนนี้เจ้าหน้าที่พบผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 209 ศพ

ฤดูมรสุมที่ยาวนานกว่าปกติในประเทศเนปาลทำให้เกิดฝนตกหนักต่อเนื่องเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่มในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะแถบหุบเข้ากาฐมาณฑุ ซึ่งเป็นที่ตั้งของเมืองหลวงและมีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 4 ล้านคน

ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักที่สุดในรอบกว่า 20 ปีนี้ ทำให้กรุงกาฐมาณฑุถูกตัดขาดจากพื้นที่อื่นๆ ชั่วคราว เนื่องจากเกิดดินถล่มหลายจุดบนถนนหลวงสายต่างๆ ขณะที่หลายชุมชนจมบาดาล

นายริชี รา ทิวารี โฆษกกระทรวงมหาดไทยของเนปาลระบุว่า จำนวนผู้เสียชีวิตทั่วประเทศที่พบจนถึงตอนนี้เพิ่มเป็นอย่างน้อย 209 ศพแล้ว และยังมีผู้สูญหายอีก 29 คน ขณะที่ทีมกู้ภัยกำลังออกปฏิบัติการทางอากาศ เพื่อช่วยเหลือผู้ที่ล้มป่วย หรือยังจำเป็นต้องอพยพไปยังที่ปลอดภัย

ทั้งนี้ ผู้เสียชีวิต 35 ศพ ถูกพบอยู่ภายในยานพาหนะหลายคันที่ถูกดินโคลนกลบฝัง หลังเกิดดินถล่มหลายจุดที่ทางหลวงปริถวี ใกล้กรุงกาฐมาณฑุ และเจ้าหน้าที่กำลังพยายามช่วยเหลือผู้คนที่ติดค้างอยู่บนถนนหลวง

ขณะเดียวกันมีรายงานว่า พบผู้เสียชีวิต 5 ศพ รวมถึงหญิงตั้งครรภ์กับเด็กหญิงวัย 4 ขวบ หลังจากบ้านของพวกเธอในเมืองภักตปุระ ทางตะวันออกของกรุงกาฐมาณฑุ เผชิญดินถล่มจนพังลงมา ส่วนอีก 2 ศพถูกนำออกจากรถบัสที่ถูกดินถล่มกลบฝังที่เมืองธาดิง ทางตะวันตกของเมืองหลวงได้แล้ว แต่รายงานเบื้องต้นระบุว่า บนรถคันนี้มีคนอยู่ทั้งหมด 12 คน

...

นอกจากนั้นยังเกิดดินถล่มที่ศูนย์ฝึกกีฬาฟุตบอล ของสมาคมฟุตบอลเนปาล (All Nepal Football Association : ANFA) ในเมืองมักวานปุระ ทางตะวันตกเฉียงใต้ของกรุงกาฐมาณฑุ ทำให้มีนักฟุตบอลเสียชีวิต 6 ศพ ขณะที่ผู้เคราะห์ร้าย 4 คนถูกพัดไปกับกระแสน้ำในแม่น้ำนัคคู ทางใต้ของหุบเขากาฐมาณฑุ จนถึงตอนนี้ยังหาตัวไม่พบ

ด้านกองทัพเนปาลระบุว่า ทีมเจ้าหน้าที่ของพวกเขากับอาสาสมัครและหน่วยงานอื่นๆ ช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้มากกว่า 4,000 คนแล้ว นับตั้งแต่ช่วงสุดสัปดาห์ โดยใช้เฮลิคอปเตอร์, เรือยนต์ และเรือยาง พาผู้ติดค้างไปยังที่ปลอดภัย

ส่วนสำนักงานสภาพอากาศของเนปาลระบุว่า ข้อมูลเบื้องต้นของพวกเขาชี้ว่า เกิดฝนตกหนักทุบสถิติในช่วง 24 ชั่วโมงจนถึงเช้าวันเสาร์ที่ 28 ก.ย. ขณะที่สถานีสังเกตการณ์ที่สนามบินกาฐมานฑุ วัดระดับน้ำฝนได้ 240 มม. ซึ่งสูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2545

นายอารุน บัคตา เชรสธา ผู้เชี่ยวชาญด้านสภาพอากาศจาก ศูนย์ระหว่างประเทศเพื่อการพัฒนาภูเขาแบบบูรณาการ (ICIMOD) กล่าวว่า ฝนควรจะลดลงในช่วงปลายเดือนกันยายน ซึ้งเป็นช่วงสิ้นสุดฤดูมรสุมประจำปี แต่ฝนกลับตกหนักขึ้น ซึ่งเรียกได้ว่าผิดปกติ และสาเหตุอาจเกี่ยวข้องกับภาพความเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศในระดับหนึ่ง

อย่างไรก็ตาม นายอารุนเสริมว่า การพัฒนาเมืองอย่างไม่มีแผนการ ก็เป็นหนึ่งในปัจจัยี่ทำให้ผลกระทบจากภัยธรรมชาติรุนแรงขึ้น

ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign

ที่มา : cna