"คามาลา แฮร์ริส" และ "โดนัลด์ ทรัมป์" ขึ้นเวทีดีเบตในรัฐเพนซิลเวเนีย ถือเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวที่สองคนได้มาเจอกันบนเวทีก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ 2024 ที่จะมีขึ้นเดือนพ.ย.นี้

ช่วงค่ำวันที่ 10 ก.ย.2567 ตามเวลาท้องถิ่นในสหรัฐฯ สถานีข่าว ABC News ถ่ายทอดสดการประชyนวิสัยทัศน์ของสองผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้แก่รองประธานาธิบดีคามาลา แฮร์ริส ผู้แทนพรรคเดโมแครต และอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งจัดขึ้นที่พิพิธภัณฑ์ National Constitution Center ท่ามกลางการยกระดับการรักษาปลอดภัยอย่างเต็มที่รอบบริเวณใจกลางเมืองฟิลาเดลเฟีย รัฐเพนซิลเวเนีย 

สองผู้สมัครเริ่มต้นด้วยการจับมือกันก่อนเข้าประจำที่โพเดียม จากนั้นเรียกอีกฝ่ายว่าคนโกหกหลายครั้งระหว่างที่สองพิธีกรถามคำถามในหลายประเด็นอาทิ การแก้ปัญหาเศรษฐกิจ จุดยืนต่อนโยบายการทำแท้ง และนโยบายด้านผู้อพยพ ตลอดจนจุดยืนต่อสงครามรัสเซีย-ยูเครน และการสู้รบระหว่างอิสราเอล-ฮามาส 

โดยรองประธานาธิบดีแฮร์ริส ตอบโต้นโยบายเศรษฐกิจของทรัมป์ โดยระบุว่ารัฐบาลทรัมป์ จากไปพร้อมการทิ้งปัญหาอัตราการว่างงานพุ่งสูงที่เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่เกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ และสิ่งที่รัฐบาลไบเดนทำต่อมาคือ เก็บกวาดปัญหายุ่งเหยิงของรัฐบาลก่อน ขณะที่ทรัมป์กล่าวว่า สหรัฐต้องเผชิญอัตราเงินเฟ้อที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ในช่วงที่ไบเดนดำรงตำแหน่ง อัตราเงินเฟ้อพุ่งสูงสุดที่ 9.1% ในเดือนมิถุนายน 2565 

...

รองประธานาธิบดีแฮร์ริสยังหยิบยกประเด็นการจัดการโรคระบาดของทรัมป์ในช่วงการระบาดใหญ่ของโควิด-19 ขึ้นมาโจมตีทรัมป์ 

โดยการเผชิญหน้าของผู้ท้าชิงเก้าอี้ผู้นำสหรัฐฯในครั้งนี้เป็นสิ่งที่ชาวอเมริกันเฝ้ารอดู หลังการพ่ายแพ้ของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ในการดีเบตรอบแรก ที่นำไปสู่การตัดสินใจของประธานาธิบดีไบเดนในการประกาศถอนตัวจากการเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตในการเลือกตั้งครั้งนี้ พร้อมเสนอชื่อรองประธานาธิบดีคามาลา แฮร์ริส เป็นตัวแทน

นักวิเคราะห์มองว่า การดีเบตครั้งนี้จะเป็นปัจจัยสำคัญในการชี้วัดว่า ใครจะเป็นผู้มีชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีที่ผลโพล่าสุดชี้ว่าทั้งสองฝ่ายยังมีคะแนนสูสีกัน.