• "มันชิกา ปราสาด" นักศึกษาปริญญาโทสาขาบริหารธุรกิจวัย 24 ปี ได้รับการสวมมงกุฎเป็น "มิสยูนิเวิร์ส ฟิจิ 2024" แต่กลับถูกปลดออกจากตำแหน่ง โดยข่าวประชาสัมพันธ์ของกองประกวดระบุว่า การประกวดไม่ได้ปฏิบัติตาม "ขั้นตอนที่ถูกต้อง"
  • นาดีน โรเบิร์ตส์ นางแบบและนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์วัย 30 ปีจากนครซิดนีย์ ซึ่งมีแม่เป็นชาวฟิจิ ได้รับตำแหน่งแทนปราสาด แต่กลับพบว่า เธอมีความสัมพันธ์ส่วนตัวกับบุคคลลึกลับรายหนึ่ง ซึ่งบริษัทของเขาซื้อลิขสิทธิ์จัดการประกวดมิสยูนิเวิร์สที่ฟิจิ
  • ผู้เชี่ยวชาญด้านการประกวดสาวงาม กล่าวว่า ข้อโต้แย้งเช่นเดียวกับกรณีล่าสุด มักจะเกิดขึ้นในประเทศที่กำลังพัฒนา เนื่องจากการประกวดนางงามในประเทศตะวันตกหลายแห่ง มักเป็นกิจกรรมที่ไม่แสวงหากำไร ขณะที่การประกวดนางงามในที่อื่นๆ ได้รับความนิยมและทำกำไรได้มากกว่า

พายุไซโคลนแห่งความขัดแย้งในวงการนางงามได้พัดถล่มโรงแรม เพิร์ล รีสอร์ต แอนด์ สปาเพิร์ล ของฟิจิ สถานที่จัดการประกวดมิส ยูนิเวิร์ส ฟิจิ หลังจาก "มันชิกา ปราสาด" นักศึกษาปริญญาโทสาขาบริหารธุรกิจวัย 24 ปี ยืนอยู่บนเวทีพร้อมกับถือช่อดอกไม้และเพิ่งได้รับการสวมมงกุฎเป็น "มิส ฟิจิ" เมื่อวันที่ 30 ส.ค. ที่ผ่านมา

แต่ไม่นานหลังจากนั้น สิ่งต่างๆ ในการประกวด ก็กลับกลายเป็นเรื่องเลวร้าย เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอีกไม่กี่วันต่อมา คือราชินีแห่งความงามที่ได้รับการสวมมงกุฎ กลับถูกปลดออกจากตำแหน่ง มีการกล่าวหาอย่างไม่เป็นธรรม และในที่สุดก็มีบุคคลลึกลับปรากฏตัวขึ้น ซึ่งมีความสัมพันธ์ส่วนตัวกับผู้เข้าประกวดคนหนึ่ง

นส.ปราสาดพบว่า มีบางอย่างผิดปกติเป็นครั้งแรก สองวันหลังจากที่เธอได้รับชัยชนะ เมื่อกองประกวดมิสยูนิเวิร์สฟิจิ (MUF) ออกข่าวประชาสัมพันธ์ โดยระบุว่าเกิด "การละเมิดหลักการอย่างร้ายแรง" และ "การเปลี่ยนแปลงผลการประกวด" จะเปิดเผยต่อสาธารณะในไม่ช้านี้ สองสามชั่วโมงต่อมา นส.ปราสาดได้รับแจ้งว่า เธอจะไม่ได้เดินทางไปเม็กซิโกเพื่อเข้าแข่งขันเพื่อชิงตำแหน่งมิสยูนิเวิร์สในเดือนพฤศจิกายนนี้

...

แต่รองชนะเลิศ นาดีน โรเบิร์ตส์ นางแบบและนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์วัย 30 ปีจากนครซิดนีย์ ซึ่งมีแม่เป็นชาวฟิจิ จะรับตำแหน่งแทนเธอ
ข่าวประชาสัมพันธ์ระบุว่า การประกวดไม่ได้ปฏิบัติตาม "ขั้นตอนที่ถูกต้อง" และ นส.ปราสาดได้รับเลือกจากการโหวตที่ไม่ยุติธรรม ซึ่งสนับสนุนให้ผู้เข้าแข่งขัน "ชาวฟิจิเชื้อสายอินเดีย" ชนะ เพราะจะทำให้ผู้จัดงานได้รับประโยชน์ทางการเงิน

นส.ปราสาดซึ่งเสียใจมาก ออกแถลงการณ์ว่าเธอจะพักจากโซเชียลมีเดีย แต่เตือนว่า "มีหลายอย่างที่สาธารณชนไม่รู้"

ขณะเดียวกัน มิสยูนิเวิร์สฟิจิคนใหม่ ก็ส่งข้อความให้กำลังใจบนอินสตาแกรมว่า "เราทุกคนได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้" ก่อนจะขอบคุณกองประกวดมิสยูนิเวิร์สฟิจิสำหรับ "การดำเนินการอย่างรวดเร็ว" แต่ผู้เข้าร่วมการประกวดไม่พอใจ เพราะมีหลายอย่างที่ดูผิดปกติ

เมลิสสา ไวท์ หนึ่งในกรรมการเจ็ดคนในคณะกรรมการกล่าวว่า "ทุกอย่างดำเนินไปอย่างราบรื่น" เธอเป็นนักชีววิทยาทางทะเล เธอบินมาจากนิวซีแลนด์เพื่อมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นการกุศลและสิ่งแวดล้อมของการประกวด เธอบอกว่า "เป็นคืนที่ยอดเยี่ยมมาก เป็นรายการที่ประสบความสำเร็จมาก หลายคนบอกว่าไม่เคยเห็นสาวงามในการประกวดเข้ากันได้ดีขนาดนี้มาก่อน"

เมื่อการแข่งขันใกล้ถึงช่วงสำคัญ กรรมการถูกขอให้เขียนชื่อผู้ที่พวกเขาคิดว่าควรเป็นมิสฟิจิคนต่อไป ด้านเจนนิเฟอร์ ชาน กรรมการอีกคนหนึ่งซึ่งเป็นพิธีกรรายการโทรทัศน์ที่อาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกาและผู้เชี่ยวชาญด้านสไตล์และความงามกล่าวว่า "ในขั้นตอนนี้ มานชิกาเป็นผู้ชนะอย่างชัดเจน" "ไม่เพียงแต่พิจารณาจากสิ่งที่เธอแสดงบนเวทีเท่านั้น แต่ยังรวมถึงวิธีที่เธอโต้ตอบกับสาวๆ คนอื่นๆ และการโพสท่าของเธอขณะถ่ายแบบด้วย"

ชานกล่าวว่าเธอมั่นใจ 100% ว่านปราสาดเป็นผู้เข้าชิงตำแหน่งตัวแทนประเทศฟิจิที่แข็งแกร่งที่สุด กรรมการคนอื่นๆ ต่างก็เห็นด้วย และนางสาวปราสาดก็ได้รับเลือกให้เป็นผู้ชนะ โดยได้รับคะแนนโหวต 4 คะแนนจากทั้งหมด 7 คะแนน

นาดีน โรเบิร์ตส
นาดีน โรเบิร์ตส

แต่เมื่อมิสยูนิเวิร์สฟิจิคนใหม่ที่เพิ่งได้รับมงกุฎยืนบนเวทีด้วยมงกุฎที่แวววาวและเปล่งประกาย กรรมการก็สัมผัสได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ ชานกล่าวว่า นาดีน โรเบิร์ตส์ ซึ่งสวมสายคาดเอวรองชนะเลิศ กำลัง "เดือดดาล"

...

ชานกล่าวว่า "ฉันจำได้ว่าตอนเข้านอน ฉันคิดว่า ทำไมคนถึงรู้สึกว่าตัวเองมีสิทธิ์ที่จะชนะได้ขนาดนี้ คุณอาจชนะบ้าง หรือแพ้บ้าง เธอเป็นผู้เข้าประกวดนางงามที่มีประสบการณ์ น่าจะเข้าใจเรื่องนี้ดี" วันรุ่งขึ้น นส. ปราสาดได้ล่องเรือฉลองกับคณะกรรมการ ชานบอกว่า "เธอบอกว่าชีวิตของฉันจะเปลี่ยนไป" และเธอเป็นเครื่องยืนยันกับฉันว่าฉันเลือกผู้หญิงที่ถูกต้อง"

อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลาดังกล่าวยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการว่าปราสาดได้รับชัยชนะ

ไม่เพียงเท่านั้น กรรมการคนหนึ่งไม่ได้ร่วมทริปเรือนี้ด้วย นั่นก็คือ ริริ เฟเบรียนี ซึ่งเป็นตัวแทนของ Lux Projects บริษัทที่ซื้อลิขสิทธิ์จัดการประกวดมิสยูนิเวิร์สที่ฟิจิ

ด้านเมลิสสา ไวท์ กล่าวว่า เธอเองก็คิดว่ามันแปลก แต่เธอบอกแค่ว่าเธอมีงานต้องทำมากมาย และเธอต้องคุยกับเจ้านาย

เฟเบรียนีกล่าวว่า เธอไม่ได้ล่องเรือเพราะต้องการพักผ่อน และคนอื่นไม่มีทางรู้ว่าเธอส่งข้อความหาใครทางโทรศัพท์ แต่ไวท์บอกว่า เธอทราบว่าเฟเบรียนี ซึ่งพักห้องเดียวกับเธอ รับสายและข้อความจากชายคนหนึ่งชื่อ "เจมี่"

มิสยูนิเวิร์สเป็นธุรกิจมูลค่าหลายล้านดอลลาร์ ที่ดำเนินการในลักษณะแฟรนไชส์ ผู้ที่ต้องการจัดประกวด ต้องซื้อใบอนุญาตซึ่งทำให้สามารถใช้แบรนด์และขายตั๋วสำหรับงานได้ ใบอนุญาตเหล่านี้มีราคาแพงและในประเทศเล็กๆ นั้นยากที่จะหาใครที่ยินดีให้ทุนสนับสนุนการประกวดระดับประเทศ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ฟิจิไม่ได้ส่งผู้เข้าประกวดมาตั้งแต่ปี 1981 แต่ในปีนี้ มีองค์กรหนึ่งที่ยินดีจะซื้อใบอนุญาต นั่นคือบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ Lux Projects นอกจากนั้น เฟเบรียนีเป็นตัวแทนของบริษัทในคณะกรรมการตัดสิน แต่ยังดูแลการสื่อสารกับสื่อด้วย

ปรากฏว่าถึงแม้จะมีเฟเบรียนีอยู่ในคณะกรรมการ แต่ Lux Projects ก็ไม่พอใจกับผลการลงคะแนน ข่าวเผยแพร่เมื่อวันอาทิตย์ระบุว่า ผู้รับใบอนุญาตเองก็ควรได้รับคะแนนโหวตเช่นกัน ซึ่งแกรนท์ ดไวเออร์ ผู้จัดงาน "ไม่ได้นับเป็นคะแนน" ขณะที่ Lux Projects จะลงคะแนนให้กับโรเบิร์ตส์ ซึ่งทำให้ผลคะแนนเสมอกัน 4-4

...

นอกจากนี้ ยังระบุด้วยว่าผู้รับใบอนุญาตยังมี "คะแนนเสียงชี้ขาด" ซึ่งทำให้นางสาวโรเบิร์ตส์เป็นผู้ชนะ
ชานกล่าวว่า "เราไม่เคยได้รับแจ้งเกี่ยวกับกรรมการคนที่แปด หรือกรรมการที่ทำหน้าที่นอกสถานที่เลยแม้แต่ครั้งเดียว"  เธอบอกว่า "เรื่องนี้ไม่มีการในเว็บไซต์ ไม่มีที่ไหนเลย นอกจากนี้ คุณจะลงคะแนนให้กับการประกวดได้อย่างไร หากคุณไม่มีชื่ออยู่ในนั้นด้วยซ้ำ"

ด้านไวท์แสดงความสงสัยว่า "ฉันลองหาข้อมูลดู และพบว่า Lux Projects มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับนักธุรกิจชาวออสเตรเลีย ชื่อเจมี่ แมคอินไทร์" และเจมี่ แมคอินไทร์ "แต่งงานกับนาดีน โรเบิร์ตส์"

เจมี่ แมคอินไทร์  และนาดีน โรเบิร์ตส
เจมี่ แมคอินไทร์ และนาดีน โรเบิร์ตส

ชายในโทรศัพท์

นายแมคอินไทร์ ระบุตัวเองว่าเป็นผู้ประกอบการ นักลงทุน และ "นักการศึกษาระดับแนวหน้าของโลก" ซึ่งตามข้อมูลที่มีทางออนไลน์ระบุว่าแต่งงานกับโรเบิร์ตส์ตั้งแต่ปี 2022

...

นอกจากนี้เขายังถูกห้ามทำธุรกิจในออสเตรเลียเป็นเวลา 10 ปีในปี 2016 เนื่องจากเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ที่ทำให้สูญเสียผู้ลงทุนไปกว่า 7 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย ผู้พิพากษาในคดีนี้กล่าวว่า "ไม่มีหลักฐานใดที่จะบ่งชี้ว่าการพัฒนาจะประสบความสำเร็จ"

วุฒิสมาชิกรายหนึ่งที่สอบปากคำเขาระหว่างการพิจารณาคดีของคณะกรรมการรัฐสภา ได้กล่าวว่าเขาเป็น "พยานที่เลี่ยงประเด็นที่สุดที่ผมเคยเจอมา และนั่นก็บอกอะไรบางอย่างได้"

แต่เขามาทำอะไรที่นี่?


ตัวแทนของเจมี่ แมคอินไทร์กล่าวว่า "นายแมคอินไทร์ไม่ใช่กรรมการหรือผู้ถือหุ้นของบริษัทผู้ได้รับอนุญาตจาก MUF แต่ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษา เนื่องจากเขาเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทที่เกี่ยวข้อง"

อย่างไรก็ตาม หน้าอินสตาแกรมของบริษัท มีวิดีโอของนายแมคอินไทร์ที่ให้คำแนะนำด้านการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงลิงก์ไปยัง 21st Century University ซึ่งเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ในบาหลี ที่นายแมคอินไทร์เป็นเจ้าของ

นอกจากนี้ ยังคาดว่า "เจมี่" อยู่ในสายระหว่างการสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่างโรเบิร์ตส์ กับแกรนต์ ดไวเออร์ ผู้จัดการประกวด

ตัวแทนของนายแมคอินไทร์ยืนกรานว่า ข้อกล่าวหาที่ว่าเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องอื้อฉาวเรื่องผลการตัดสิน เป็น "ทฤษฎีการสมคบคิด" แม้ว่าพวกเขาจะยอมรับว่าเขา "ให้คำแนะนำแก่ผู้ได้รับใบอนุญาต" ก็ตาม

นอกจากนี้ ข้อกล่าวหาในข่าวประชาสัมพันธ์ที่ว่า นายดไวเออร์กดดันคณะกรรมการให้เลือกปราสาดเพราะเรื่องเชื้อชาติของเธอนั้น กลับถูกหักล้างด้วยข้อเท็จจริงที่ว่า นายดไวเออร์ลงคะแนนเสียงให้กับโรเบิร์ตส์

ชานกล่าวว่า "การเอ่ยถึงเรื่องเชื้อชาติเป็นเรื่องน่ารังเกียจ" เธอบอกว่า ไม่เคยมีการเอ่ยถึงเรื่องนี้แม้แต่ครั้งเดียวในหมู่คณะกรรมการ

ด้านสำนักข่าวบีบีซี คาดว่าผู้ที่เกี่ยวข้องหลายคน ซึ่งรวมถึงคณะกรรมการและผู้เข้าแข่งขันบางคน ได้รับอีเมล "หยุดและล้มเลิก" จาก Lux Projects ซึ่งเชื่อว่าอีเมลดังกล่าวเป็นคำสั่งห้ามปราม

ชื่อเสียง เกียรติยศ และเงินทอง


เรื่องอื้อฉาวในฟิจินี้ไม่ใช่เรื่องแรกที่กระทบต่อวงการประกวดนางงาม ซึ่งในประวัติศาสตร์ก็เคยเกิดข้อโต้แย้งกันมาแล้วหลายครั้ง

ศาสตราจารย์ฮิลารี เลวี ฟรีดแมน ผู้เขียนหนังสือ ‘Here She Is: The Complicated Reign of the Beauty Pageant in America’ กล่าวว่า "การประกวดนางงามเต็มไปด้วยเรื่องดราม่า ข้อโต้แย้ง และผู้คนต่างพูดว่าการประกวดเป็นเรื่องของผลประโยชน์"

เธอกล่าวเสริมว่า "ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ปัญหาเหล่านี้ยิ่งเด่นชัดมากขึ้นเพราะโซเชียลมีเดีย" นอกจากเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับการลงคะแนนในการประกวดมิสอเมริกาในปี 2022 แล้ว ข้อโต้แย้งล่าสุดมักจะเกิดขึ้นในประเทศที่กำลังพัฒนา อาจเป็นเพราะการประกวดนางงามในประเทศตะวันตกหลายแห่งมักเป็นกิจกรรมที่ไม่แสวงหากำไร ขณะที่การประกวดนางงามในที่อื่นๆ ได้รับความนิยมและทำกำไรได้มากกว่า

ฟรีดแมน กล่าวว่า "ในอดีต การประกวดนางงามเป็นเครื่องมือที่ยอดเยี่ยมสำหรับการเคลื่อนย้ายทางสังคมสำหรับผู้หญิง นอกจากชื่อเสียงและเกียรติยศแล้ว มันยังให้แพลตฟอร์มแก่คุณในการดึงดูดผู้ติดตามและผู้สนับสนุน เมื่อมีเงินเข้ามาเกี่ยวข้อง เดิมพันก็ยิ่งสูงขึ้น"

อย่างไรก็ตาม สำหรับ นส.ปราสาด ปรากฏว่าเธอได้รับบทสรุแบบแฮปปี้เอนดิ้ง เธอโพสต์บนบัญชีโซเชียลมีเดียของเธอ เมื่อวันที่ 6 ก.ย. ว่าเธอได้รับการสวมมงกุฎเป็นมิสฟิจิ 2024อีกครั้ง เธอเขียนบนอินสตาแกรมว่า "การเดินทางครั้งนี้ช่างเหลือเชื่อจริงๆ" 

องค์กรมิสยูนิเวิร์ส (MUO) ไม่ได้แสดงความคิดเห็นใดๆ แต่คาดว่า MUO ไม่พอใจอย่างยิ่งกับเหตุการณ์ในฟิจิ และหลังจากที่ได้พิสูจน์ข้อเท็จจริงแล้ว MUO ก็ทำงานอย่างหนักเพื่อนำ น.ส.ปราสาดกลับคืนสู่ตำแหน่งราชินีของเกาะอีกครั้ง

แต่สำหรับโรเบิร์ต เธอยังเรียกตัวเองว่า "มิสยูนิเวิร์สฟิจิ 2024 ตัวจริง" บนอินสตาแกรม

เมลิสสา ไวท์ กล่าวว่าเธอ "ภูมิใจต่อการประพฤติตนของปราสาดตลอดการประกวดครั้งนี้" เธอเป็นหญิงสาวที่ฉลาด มีเมตตา และสวยงาม ซึ่งเธอไม่สมควรได้รับสิ่งนี้"

"เราแค่ต้องการให้ความจริงถูกเปิดเผย และตอนนี้มันก็ถูกเปิดเผยแล้ว"

ที่มา BBC

อ่านข่าวเพิ่มเติม https://www.thairath.co.th/news/foreign