ทวีปแอฟริกามีพื้นที่ 30.3 ล้านตารางกิโลเมตร ใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากทวีปเอเชีย ประกอบด้วย 54 ประเทศ 2 ดินแดน พิพาท 4 อาณาเขต มีประชากร 1.22 พันล้านคน มีภาษาที่พูดทั้งหมดเกือบ 3 พันภาษา
ตั้งแต่ ค.ศ.1997 ผู้เขียนคอลัมน์เปิดฟ้าส่องโลกเริ่มตะลุยไปตามประเทศต่างๆในทวีปแอฟริกา ต่างชาติที่มีอิทธิพลในประเทศของทวีปแอฟริกาในสมัยนั้นมี 2 พวก พวกแรกคือเจ้าอาณานิคมเก่า เช่น ฝรั่งเศส อังกฤษ เยอรมนี และอิตาลี อีกพวกหนึ่งเป็นสาธารณรัฐจีนหรือไต้หวัน
25 ปีก่อน เรามักจะได้รับชวนไปงานวันชาติไต้หวัน การเฉลิมฉลองเต็มไปด้วยผู้แทนจากประเทศในทวีปแอฟริกา ที่เป็นเช่นนี้เพราะไต้หวันไปให้ความช่วยเหลือเกื้อกูลและไปลงทุนในทวีปแอฟริกา ความมุ่งหวังตั้งใจของไต้หวันสมัยนั้นก็คือ ต้องการเสียงจากประเทศเล็กชาติน้อยเพื่อให้สนับสนุนตัวเองให้กลับมาได้เป็นสมาชิกสหประชาชาติ
ค.ศ.2003 รัฐบาลไต้หวันเชิญ ร.ต.อ.ดร.นิติภูมิธณัฐ มิ่งรุจิราลัย ไปงานเฉลิมฉลองวันชาติที่กรุงไทเป ปีนั้น ผู้แทนรัฐบาลจากทวีปแอฟริกาเบี้ยวการเดินทางมางานวันชาติเกือบจะทั้งหมด ทั้งที่กำหนดการออกมาครบหมดแล้ว แต่พอถึงวันเวลาจริงก็ไม่เดินทางมา ทราบว่าแต่ละประเทศหันไปรับความสนับสนุนจากรัฐบาลของสาธารณรัฐประชาชนจีน
ค.ศ.2000 เป็นต้นมา เมื่อเราเดินทางไปเยือนแต่ละประเทศในแอฟริกา เจ้าภาพมักจะอวดเรื่องการก่อสร้างที่รัฐบาลจีนแผ่นดินใหญ่มาช่วยสนับสนุน ไม่ว่าจะเป็นทำเนียบรัฐบาล โรงเรียน โรงพยาบาล ถนนหนทาง สนามกีฬา ฯลฯ หลังจากนั้นก็เริ่มมีไชน่าทาวน์เกิดขึ้นหลายแห่ง
พอถึง ค.ศ.2003 ผู้เขียนเปิดฟ้าส่องโลกก็เชิญประธานาธิบดีอูกันดามาบรรยายในสถาบันการศึกษาของไทย ต่อมาก็เชิญรัฐมนตรีหลายประเทศมาเยือนไทยอย่างต่อเนื่องจนเกิดการค้าการลงทุนระหว่างไทย-แอฟริกาท่ามกลางกระแสการค้าการลงทุนของจีน
...
แม้ว่าจีนจะเข้ามาลงทุนและค้าขายเต็มทวีปแอฟริกา แต่กระแสสินค้าและบริการของจีนเมื่อ 20 กว่าปีที่แล้ว คนแอฟริกันบ่นว่าไม่มีคุณภาพ ราคาถูกจริงแต่คนไม่อยากซื้อ คนแอฟริกันสนใจสินค้าไทยมากกว่า
ผู้เขียนคอลัมน์เปิดฟ้าส่องโลกสมัยนั้นรับเป็นประธานหอการค้าไทย-ไนจีเรียซึ่งเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในทวีปแอฟริกา ค.ศ.2005-2015 ผู้เขียนเปิดฟ้าส่องโลกเป็นประธานที่ปรึกษาของบริษัทที่ปรึกษาด้านโอกาสการค้าการลงทุนไทยในประเทศตลาดใหม่ให้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ของไทย
จากการเดินทางตระเวนประเทศในทวีปแอฟริกาสมัยนั้น นักธุรกิจไทยต้องต่อสู้กับกระแสจีนที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลจีน แต่สิ่งที่ทำให้แทบทุกประเทศต้องถอยกรูดเพราะสู้จีนไม่ไหวคือโครงการแถบเศรษฐกิจเส้นทางสายไหมและเส้นทางสายไหมทางทะเลแห่งศตวรรษที่ 21 ที่สี จิ้นผิง ได้เสนอแนวคิดข้อริเริ่มนี้เมื่อกันยายนและตุลาคม 2013
ผู้เขียนเปิดฟ้าส่องโลกคนแรกได้รับเชิญให้ไปทดลองนั่งรถยนต์ที่วิ่งบนทางด่วนจากกรุงแอดดิสอะบาบาถึงเมืองอดามา ซึ่งเป็นทางด่วนสายแรกในเอธิโอเปียและในทวีปแอฟริกาตะวันออกที่สร้างขึ้นโดยการระดมทุนจากรัฐบาลจีน ออกแบบเป็นทางคู่ขนานรวม 6 ช่องทางจราจร สามารถเดินรถด้วยความเร็ว 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โครงการนี้สร้างชื่อเสียงให้จีนมาก
ก่อนที่ทางด่วนนี้จะสร้างเสร็จ การเดินทางจากกรุงแอดดิสอะบาบาไปยังเมืองอดามาซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 ของเอธิโอเปียใช้เวลาเดินทางเกือบ 3 ชั่วโมง หลังจากจีนสร้างให้สำเร็จและเชิญเราให้ลองไปนั่งรถ ใช้เวลาเพียง 45 นาที นี่เป็นกระแสที่แรงที่สุดที่พูดกันทั่วทวีปแอฟริกา
หลังจากนั้นก็มีการสร้างรถไฟทางคู่จากกรุงแอดดิสอะบาบาไปยังสาธารณรัฐจิบูตี ก่อนที่จะมีการเปิดใช้ ก็มีการเชิญเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงไคโรของอียิปต์ (ซึ่งดูแลเอธิโอเปียด้วย) และผู้เขียนเปิดฟ้าส่องโลกคนแรกได้ไปทดลองนั่งด้วย จีนสร้างกระแสจากการเชิญบุคคลสำคัญของประเทศต่างๆไปทดลองนั่ง ยิ่งทำให้กระแสจีนบูมตูมตามในแอฟริกา
เทคนิคของจีนในแอฟริกามีเยอะครับ ขอรับใช้ต่อในวันพรุ่งนี้.
นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย
คลิกอ่านคอลัมน์ “เปิดฟ้าส่องโลก” เพิ่มเติม