เมษายน 2003 อาลี สมบูรณ์ (บัณฑิตมหาวิทยาลัยซัดดัม อิรัก) เยฟกินี เบเลนกี (ชาวรัสเซีย) ร.ต.อ.ดร.นิติภูมิธณัฐ มิ่งรุจิราลัย และช่างภาพจากบริษัทเบรฟฮาร์ท เดินทางจากชายแดนซีเรียเข้าไปในแผ่นดินอิรัก เพื่อค่อยๆเขยิบต่อเข้าไปยังกรุงแบกแดด

ช่วงนั้นสหรัฐฯและอังกฤษประกาศล้มรัฐบาลซัดดัม ฮุสเซน และใช้เฮลิคอปเตอร์ดักยิงรถที่หันหน้าวิ่งเข้ากรุงแบกแดด ส่วนรัฐบาลซัดดัมก็ดักยิงรถที่วิ่งหันหน้าไปสู่ซีเรีย เนื่องจากเชื่อว่าจะมีพวกนายทหารและผู้หลักผู้ใหญ่ไม่ร่วมสู้และหนีออกจากอิรัก

คณะของพ่อผมจึงต้องเดินทางเฉพาะยามค่ำคืน ค่อยๆ คลำทางไป โดยศึกษาสัญญาณการกะพริบไฟให้ผ่านในแต่ละพื้นที่ หลายด่านมีการยิงคนในรถและเผาทั้งคัน เราเจอแม้แต่ซากรถบัสที่ถูกเผาจนดำเป็นตอตะโก ส่วนคณะของพ่อเจอบางด่านที่มีคนเอามีดเตรียมปาดคอผู้คนบนรถ ความที่คุณ

อาลีพูดภาษาอารบิกได้ดี จึงอรรถาธิบายขยายความ และด้วยไหวพริบของคุณอาลี จึงสามารถพาคณะผ่านมาจนถึงกรุงแบกแดด

การเดินทางในประเทศที่การเมืองไม่มั่นคง ไม่ว่าจะในตะวันออกกลางหรือในเอเชียใต้ บางเส้นทางที่อันตรายมีการตรวจรถอยู่เป็นระยะ ไม่พอใจก็ลากทั้งคนขับและผู้โดยสารมายิงทิ้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ปากีสถานซึ่งครอบครัวผมเดินทางระหว่าง ค.ศ.2001-2012 หลายครั้งทั้งพ่อ พี่ชาย และตัวผม เจอเหตุอันตราย แต่ไม่รุนแรงถึงขนาดบาดเจ็บหรือเสียชีวิต

25 สิงหาคม 2024 กลุ่มติดอาวุธปิดถนนไฮเวย์ในเขตมูซาเคล แคว้นบาลูจิสถานของสาธารณรัฐอิสลามปากีสถาน เมื่อเจอรถบัสวิ่งผ่านก็เรียกให้หยุดเพื่อตรวจบัตร แล้วก็ยิงทิ้งผู้โดยสารและเผารถ

26 สิงหาคม 2024 มุขมนตรีแห่งแคว้นบาลูจิสถานออกมายอมรับว่า มีพลเรือน 38 คน ถูกยิงเสียชีวิต โดยถูกยิงจากทางข้างหลัง ต่อหน้าสมาชิกในครอบครัว จากนั้นก็จุดไฟเผารถบัสทิ้ง รถประเภทต่างๆที่วิ่งอยู่บนถนนไฮเวย์เขตมูซาเคลถูกเผาทิ้งถึง 35 คัน ศพจำนวนหนึ่งไม่สามารถระบุอัตลักษณ์ได้

...

จากการรายงานของทางราชการ ยังมีมือระเบิดฆ่าตัวตายไปโจมตีฐานที่ตั้งกึ่งทหาร ทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายคนคาฐาน และมีผู้เสียชีวิตรวมทั้งสิ้นไม่ต่ำกว่า 73 คน จากการโจมตีหลายครั้งบนถนนไฮเวย์เขตมูซาเคล

เปิดฟ้าส่องโลกขออนุญาตแนะนำว่า อย่าเดินทางไปในประเทศเสี่ยง บางประเทศแม้จะจ้างกองกำลัง แต่ก็ไม่สามารถคุ้มครองป้องกันได้

มีอินฟลูเอนเซอร์หลายชาติที่เดินทางไปต่างประเทศเพื่อนำภาพมาลงในโซเชียลมีเดีย บางครั้งได้ไม่คุ้มเสีย มีเรื่องร้ายเกิดขึ้นมากมายที่ไม่ได้นำมาบอกกล่าวเล่าแจ้งทางสาธารณะ เมื่อเห็นแต่ในมิติที่ดีๆ สนุกสนาน น่าสนใจ จึงทำให้หลายคนทำตาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเยาวชนที่มีความรู้ด้านการต่างประเทศไม่เพียงพอ ไม่สามารถแยกแยะได้ว่าที่ใดปลอดภัย หรือไม่ปลอดภัย

ถึงวันนี้ ไลน์ไอดี @ntp59 มีสมาชิก 66,515 คน เคยมีพ่อแม่ที่เป็นเพื่อนไลน์มาขอร้องแอดมินช่วยติดต่อกับหน่วยงานในบางประเทศให้ช่วยตามหาลูกหลานของตนเอง บางรายทั้งสามีภรรยาหายไปในต่างประเทศ และยังติดต่อไม่ได้จนกระทั่งบัดนี้

ความเสี่ยงบางประเภทคุ้มที่จะเสี่ยง แต่ความเสี่ยงในบางพื้นที่มีโอกาสรอดน้อยมาก ครั้งหนึ่งพ่อและพี่ชายของผมไปสาธารณรัฐเอกวาดอร์ ทวีปอเมริกาใต้ ได้พบผู้คนท้องถิ่นเล่าให้ฟังว่า มีนักท่องเที่ยวหญิงชายชาวไทยเช่ารถมอเตอร์ไซค์ขับตระเวนไปตามชนบท บั้นปลายที่สุดก็ประสบหายนะภัยจนถึงขั้นเสียชีวิต

การเสียชีวิตในบางประเทศ ไม่มีใครสนใจที่จะส่งศพกลับ หรือแม้แต่จะแจ้งให้หน่วยงานราชการทราบว่ามีพลเมืองของชาติอื่นเสียชีวิต ชาวบ้านในพื้นที่ห่างไกลที่ประสบเหตุถือว่าธุระไม่ใช่ ช่วยได้แค่นำไปฝังหรือเผาก็จบกันไป

กรณีของปากีสถาน ผมกับพ่อเคยไปพักบ้านเกิดของท่านรัฐมนตรีในเทือกเขาสูง ที่บ้านของท่านเต็มไปด้วยกองกำลังที่คอยรักษาความปลอดภัย

นึกถึงคนเดินทางที่ไม่ได้มีกองกำลังขนาด 50-100 คน คอยป้องกัน เจอเหตุการณ์ร้ายก็คงแก้ไขอะไรไม่ได้.

นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย
songlok1997@gmail.com

คลิกอ่านคอลัมน์ “เปิดฟ้าส่องโลก” เพิ่มเติม