เมื่อต้นเดือน ส.ค. มีข่าวคราวที่ทำให้หลายคนตกใจไม่น้อย เมื่อ มิน ยุนกิ หรือ ชูก้า สมาชิกวง บีทีเอส บอยแบนด์ชื่อก้องโลก จากเกาหลีใต้ ถูกสั่งปรับและเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ รวมทั้งตำรวจได้เรียกมาเข้าให้ปากคำเพิ่มเติมจากเหตุเมาแล้วขี่สกูตเตอร์ไฟฟ้าจนเกิดอุบัติเหตุรถล้มบริเวณหน้าที่พักในเขตยงซาน กรุงโซล ขณะนั้นชูก้ามีระดับแอลกอฮอล์ในเลือดสูงถึง 0.227% ซึ่งอาจมีโทษจำคุก 2-5 ปี หรือสั่งปรับเงิน 10-20 ล้านวอน (2-5 แสนบาท)

หลังเกิดเหตุ ชูก้าโพสต์บนแพลตฟอร์มวีเวิร์ส ขอโทษและชี้แจงต่อการกระทำฝ่าฝืนกฎหมายจราจรจากการเมาแล้วขี่สกูตเตอร์ไฟฟ้าแบบยืน (Electric Kickboard) เช่นเดียวกับบิ๊กฮิต มิวสิค ค่ายต้นสังกัดของบีทีเอสแถลงขอโทษต่อกรณีดังกล่าว

แต่ปัญหาได้เกิดขึ้นหลังจากสถานีโทรทัศน์เจทีบีซี เผยคลิปจากกล้องวงจรปิดเมื่อ 7 ส.ค. แสดงให้เห็นชายคนหนึ่งกำลัง ขี่สกูตเตอร์ไฟฟ้า แบบมีอานนั่ง ไปตามทางบนถนนใหญ่ กล่าวอ้างว่าบุคคลในคลิปคือชูก้า โดยไม่ได้รับการยืนยันว่าจริงหรือเท็จ อีกทั้งรูปร่างสกูตเตอร์ในคลิปกลับไม่ตรงกับที่ชูก้าและต้นสังกัดแถลงไว้ก่อนหน้า ยิ่งจุดกระแสให้เกิดข้อถกเถียงจากทางฝั่งของอาร์มี (แฟนคลับของบีทีเอส) และชาวเน็ต ว่าแถลงการณ์นี้คือ คำโกหก หรือไม่

ขณะที่ตำรวจยืนยันว่า สกูตเตอร์ที่ศิลปินหนุ่มใช้เป็นแบบ มีอานนั่ง ส่วน บิ๊กฮิต มิวสิค ก็แถลงแก้ไขความเข้าใจสอดคล้องกับคำยืนยันจากตำรวจเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ยังมีทั้งคนที่ให้กำลังใจชูก้า และคนที่เรียกร้องให้ออกจากวง เนื่องจากมองว่าทำลายภาพลักษณ์ของบีทีเอส

ก่อนสุดท้ายเรื่องราวจึงกระจ่างชัด เมื่อหนังสือพิมพ์ดงอาอิลโบเผยคลิปจากกล้องวงจรปิด เป็นชายคนหนึ่งกำลังขี่สกูตเตอร์ไฟฟ้าแบบมีอานนั่งไปตามทางเท้าก่อนเสียการทรงตัวและล้มลงขณะเข้าโค้ง ซึ่งตำรวจยืนยันว่าคลิปจากดงอาอิลโบคือศิลปินหนุ่มที่กำลังเป็นประเด็นร้อนจริง เท่ากับว่า รายงานของเจทีบีซีนั้นไม่ถูกต้อง

...

ส่งผลให้อาร์มีเรียกร้องเจทีบีซีให้หยุดออกอากาศคลิปเจ้าปัญหา เนื่องจากเป็นการรายงานข่าวเท็จ อีกทั้งยังละเมิดบทบาทของสื่อและละเมิดสิทธิของประชาชนในการรับรู้ข่าวสารที่ถูกต้อง พร้อมย้ำว่าการเรียกร้องไม่ได้มีเพื่อพยายามปกป้องศิลปินที่ฝ่าฝืนกฎหมาย ก่อนเจทีบีซีจะแถลงขอโทษต่อรายงานข่าวที่สร้างความสับสนในเวลาต่อมา.

ญาทิตา เอราวรรณ

ขอบคุณภาพจาก 미디어오늘

คลิกอ่านคอลัมน์ “หน้าต่างโลก” เพิ่มเติม