เกริ่นจากตอนที่แล้ว เรื่องสารจาก นายระห์หมัด บูดีมัน เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอินโดนีเซียประจำประเทศไทย ในโอกาสครบรอบ 79 ปี วันประกาศอิสรภาพของอินโดนีเซีย วันที่ 17 ส.ค.นี้

ท่านทูตบูดีมัน ชี้ว่า นับแต่สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเป็นทางการเมื่อ 7 มี.ค. 2493 จวบจนวันนี้ความสัมพันธ์ระหว่างอินโดนีเซียกับประเทศไทยมีความแข็งแกร่งรอบด้าน เป็นเพื่อนบ้านใกล้ชิด เป็นมิตรสหายที่ไว้วางใจ ยังเป็นแรงสำคัญขับเคลื่อนเศรษฐกิจอาเซียน ที่ผ่านมาสามารถบรรลุเป้าหมายทั้งการค้าการลงทุน การแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม ประชาชนทั้ง 2 ชาติมีความสนิทสนม ล้วนเป็นผลจากความร่วมมือผนึกกำลังอย่างแข็งขันของทั้ง 2 ฝ่าย ทั้งหน่วยงานของรัฐ นักธุรกิจ นักวิชาการ นักเรียนนักศึกษา นักการเมือง สื่อมวลชนและประชาชนทั่วไป

เอกอัครราชทูตอินโดนีเซียเผยว่ารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการส่งเสริมความสัมพันธ์และความเจริญรุ่งเรืองของทั้ง 2 ชาติ ยังใช้โอกาสนี้มอบสาระสำคัญจาก “นายโจโก วิโดโด” ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย หวังยกระดับการทำงาน และความร่วมมือระดับทวิภาคีในภาคเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการค้าและการลงทุน การรักษาสันติภาพและเสถียรภาพ พร้อมการสร้างความมั่นใจส่งเสริมกัน ในเวทีทั้งในระดับภูมิภาคและโลก

ทั้งนี้ อินโดนีเซียและประเทศไทย ในฐานะสมาชิกผู้ก่อตั้งประชาคมอาเซียนและเอเปก มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่สุดเป็นอันดับ 1 และอันดับ 2 ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ยังเป็นคู่ค้าสำคัญของกันและกัน โดยไทยเป็นคู่ค้าอันดับ 8 ของอินโดนีเซีย ขณะที่อินโดนีเซียคือคู่ค้าสำคัญลำดับที่ 9 ของไทย ให้คำมั่นจะเดินหน้าสานต่อและขับเคลื่อนการเติบโตของภูมิภาคต่อไป ด้วยการฟื้นความเชื่อมต่อในภูมิภาค และเดินหน้า ร่วมมือส่งเสริมรถยนต์พลังงานไฟฟ้า เศรษฐกิจ ดิจิทัล และแหล่งพลังงานสีเขียว ลดวิกฤติโลกร้อนเพื่อความยั่งยืนในอนาคต.

...

คลิกอ่านคอลัมน์ “หน้าต่างโลก” เพิ่มเติม