ในโอกาสครบรอบ 79 ปี วันประกาศอิสรภาพของสาธารณรัฐอินโดนีเซีย 17 ส.ค.นี้ นายระห์หมัด บูดีมัน เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอินโดนีเซียประจำประเทศไทย ส่งสารมอบความปรารถนาดีและคำอวยพรต่อรัฐบาลและประชาชนไทยที่ร่วมอวยพรในโอกาสวันประกาศอิสรภาพ วันสำคัญยิ่งของชาวอินโดนีเซีย เป็นการเฉลิมฉลองวันแห่งการเดินทางสู่เสรีภาพ เอกภาพ และความก้าวหน้าของชาติ

ท่านทูตบูดีมันระบุว่าวันประกาศอิสรภาพของอินโดนีเซียในปีนี้ จัดขึ้นภายใต้หัวข้อ “Nusantara Baru, Indonesia Maju” หรือ “นูซันตาราใหม่ อินโดนีเซียก้าวหน้า” เผยถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ 3 ประการในปีนี้ของอินโดนีเซียทั้งเมืองหลวงใหม่นูซันตารา ประธานาธิบดีคนใหม่ และการเตรียมพร้อมสู่ “อินโดนีเซียที่รุ่งเรืองในปี 2588” เป็นชาติที่มีอธิปไตย ความก้าวหน้า ความยุติธรรม และเจริญรุ่งเรืองในศตวรรษที่ 100 ในปี 2588

ทั้งนี้ เพื่อบรรลุความเป็นชาติรุ่งเรืองดังกล่าว รัฐบาลอินโดนีเซียได้กำหนดแนวทางเสาหลักสำคัญ 4 ประการ ได้แก่ 1.การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และการเชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 2. การพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน 3. การพัฒนาอย่างเป็นธรรม และ 4.เสริมสร้างความเข้มแข็งของชาติและการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ ขณะที่ยังคงมีบทบาทสำคัญในเวทีโลก เพื่อหนุนนำ ความยุติธรรม สันติภาพ และความมั่นคง รวมทั้งเป็นเรี่ยวแรงสำคัญสู้ภัยจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และเพื่อบรรลุความเจริญรุ่งเรืองและความยั่งยืนของโลก

ท่านทูตยังย้ำบทบาทของอินโดนีเซียในการทำงานร่วมกับนานาประเทศในการสนับสนุนความยั่งยืนของ “น้ำ” ทรัพยากรธรรมชาติทรงคุณค่าต่อทุกชีวิต โดยรับหน้าที่เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมน้ำโลกครั้งที่ 10 ที่เกาะบาหลี ของอินโดนีเซีย เมื่อ 18 -25 พ.ค.ที่ผ่านมา ผลักดันให้ทั่วโลกยกระดับความสำคัญของน้ำ ร่วมหาแนวทาง นวัตกรรมและลงมือบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืนอย่างรูปธรรม รวมถึงการบรรเทาผลกระทบจากภัยธรรมชาติ เช่น อุทกภัยและภัยแล้ง ที่นับวันยิ่งทวีความรุนแรงจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพื่ออนาคตของทุกชีวิตบนโลกใบนี้ มีน้ำกิน น้ำใช้เป็นประโยชน์ร่วมกันอย่างสมบูรณ์.

...

คลิกอ่านคอลัมน์ "หน้าต่างโลก" เพิ่มเติม