ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ยอมรับเป็นครั้งแรกว่ากองทัพยูเครนได้เปิดฉากโจมตีในภูมิภาคคูร์สก์ ทางตะวันตกของรัสเซีย

ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ยอมรับเป็นครั้งแรกว่า กองกำลังยูเครนกำลังต่อสู้ในปฏิบัติการบุกโจมตีอย่างกะทันหัน ที่ภูมิภาคคูร์สก์ของรัสเซีย ขณะที่ทางการรัสเซียและยูเครนต่างเร่งอพยพประชาชนในพื้นที่ชายแดนออกจากพื้นที่เสี่ยงภัย

กองกำลังของรัสเซียกำลังสู้รบอย่างหนักหน่วงเป็นวันที่ 6 ต่อการรุกรานดินแดนรัสเซียครั้งใหญ่ที่สุดของยูเครน นับตั้งแต่เริ่มต้นสงคราม ซึ่งทำให้พื้นที่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของรัสเซียเสี่ยงต่อการถูกโจมตีก่อนที่กองกำลังเสริมจะเดินทางมาถึง

รัสเซียได้กำหนดมาตรการรักษาความปลอดภัยที่ครอบคลุมในพื้นที่ชายแดน 3 แห่งในวันเสาร์ (10 ส.ค.) ซึ่งเป็นสัญญาณที่แสดงถึงความรุนแรงของสถานการณ์ ขณะที่เบลารุส ซึ่งเป็นพันธมิตรของรัสเซีย ได้ส่งกำลังทหารเพิ่มเติมไปยังชายแดนที่ติดกับยูเครน โดยกล่าวหาว่ายูเครนละเมิดน่านฟ้าของตน

ประธานาธิบดีเซเลนสกี ได้กล่าวว่า เขาได้หารือเกี่ยวกับปฏิบัติการดังกล่าวกับพลเอกโอเล็กซานเดอร์ ซีร์สกี ผู้บัญชาการระดับสูงของยูเครน และให้คำมั่นว่าจะคืนความยุติธรรมให้กับผู้รุกราน หลังจากที่รัสเซียเปิดฉากการรุกรานเต็มรูปแบบต่อยูเครน มาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2565

ด้านประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ระบุว่า การโจมตีของยูเครน ซึ่งนักวิเคราะห์ทางทหาร กล่าวว่า ทำให้รัสเซียตั้งตัวไม่ทัน เป็นการยั่วยุครั้งสำคัญ ด้านพลเอกวาเลรี เกราซิมอฟ ของรัสเซีย กล่าวเมื่อวันพุธว่า การโจมตีดังกล่าวได้หยุดลงแล้ว แต่จนถึงขณะนี้ รัสเซียยังไม่สามารถผลักดันกองกำลังยูเครนกลับข้ามพรมแดน

ส่วนบล็อกเกอร์ด้านการทหารของรัสเซีย กล่าวว่า สถานการณ์เริ่มคงที่แล้วหลังจากที่รัสเซียส่งกำลังเสริม แม้ว่าจะกล่าวว่ายูเครนกำลังเสริมกำลังอย่างรวดเร็วก็ตาม

...

เมื่อเช้าวันอาทิตย์ (11 ส.ค.) เจ้าหน้าที่ภูมิภาคคูร์สก์ รายงานว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 13 ราย หลังจากเศษซากจากขีปนาวุธที่ยูเครนยิงถล่มลงมาบนอาคารที่พักอาศัยสูง 9 ชั้น นายอเล็กเซย์ สมีร์นอฟ รักษาการผู้ว่าการภูมิภาคคูร์สก์ สั่งให้หน่วยงานท้องถิ่นเร่งอพยพพลเรือนในพื้นที่เสี่ยงภัยเมื่อวันเสาร์ ด้านสำนักข่าวทาสส์ ของรัสเซีย รายงานว่า ประชาชนมากกว่า 76,000 คน ได้รับการอพยพ

ทั้งยูเครนและรัสเซียต่างปฏิเสธว่าไม่ได้โจมตีโดยพุ่งเป้าไปที่พลเรือน ในการโจมตีที่ผ่านมา ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไปหลายพันคน และทำให้ชาวยูเครนหลายล้านคนต้องพลัดถิ่น และยังไม่มีทีท่าว่าจะยุติลง

บล็อกเกอร์ด้านทหารของรัสเซีย กล่าวว่า การสู้รบเกิดขึ้นลึกเข้าไปภายในภูมิภาคคูร์สก์ถึง 20 กิโลเมตร ทำให้บางคนตั้งคำถามว่า เหตุใดยูเครนจึงสามารถเจาะภูมิภาคคูร์สก์ได้อย่างง่ายดาย.

ที่มา Reuters

ติดตามข่าวต่างประเทศเพิ่มเติมที่ https://www.thairath.co.th/news/foreign