นักฮอกกี้ชาวออสเตรเลียตัดสินใจตัดนิ้วบางส่วนออก หลังได้รับบาดเจ็บ เพื่อลงแข่งขันในมหกรรมโอลิมปิก 2024 ที่ปารีส
แมตต์ ดอว์สัน วัย 30 ปี ได้รับบาดเจ็บที่นิ้วนางของมือขวา หลังจากถูกไม้ฮอกกี้ฟาดระหว่างการแข่งขันฝึกซ้อม เพียงสองสัปดาห์ก่อนที่เขาจะลงเล่นให้กับทีมชาติออสเตรเลียในการแข่งขันโอลิมปิก ปารีส 2024 ซึ่งจะเป็นครั้งที่สามที่เขาเข้าร่วมการแข่งขันโอลิมปิก
เขามีกำหนดจะลงสนามกับทีมชาติในเกมพบกับทีมอาร์เจนตินาในวันที่ 27 ก.ค.นี้ เพียง 16 วัน หลังจากที่เขาได้รับบาดเจ็บ ดอว์สัน บอกกับสื่อว่า นิ้วของเขาเสียหายอย่างรุนแรงมาก จนเขาหมดสติเมื่อเห็นนิ้วของตัวเองในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า เขาคิดว่าความฝันในการแข่งขันโอลิมปิกของเขาจบลงแล้ว
เขาจึงรีบปรึกษากับศัลยแพทย์ที่ทางเลือก 2 ทางคือ การผ่าตัดซ่อมแซมนิ้วโดยการใส่ลวดเข้าไป ซึ่งหมายถึงการต้องพักฟื้นนาน 4-6 เดือน เพื่อให้ฟื้นตัวเต็มที่ ซึ่งทำให้เขาต้องพลาดการแข่งขันโอลิมปิก หรืออาจผ่าตัดเอาส่วนที่ได้รับผลกระทบของนิ้วออก ที่อาจทำให้เขากลับมาเล่นได้อีกครั้งภายใน 10 วัน แม้ว่าภรรยาจะเตือนเขาว่าอย่าทำอะไรที่ "หุนหันพลันแล่น" แต่ดอว์สันก็บอกว่าเขาตัดสินใจ "อย่างมีข้อมูล" ในบ่ายวันนั้นเอง
ดอว์สัน จึงตัดสินใจตัดนิ้วที่บริเวณข้อนิ้วออกเพื่อลงแข่งขันโอลิมปิก ซึ่งสร้างความตกตะลึงให้กับเพื่อนร่วมทีมและโค้ช
เขากล่าวว่า "ตอนนี้อาชีพการงานของผมใกล้จะสิ้นสุดลงแล้ว และใครจะรู้ นี่อาจเป็นโอลิมปิกครั้งสุดท้ายของผมก็ได้ และถ้าผมรู้สึกว่ายังทำผลงานได้ดีที่สุด นั่นคือสิ่งที่ผมจะทำ" เขากล่าวกับพอดแคสต์ Parlez Vous Hockey ว่า
"ถ้าการต้องตัดส่วนบนของนิ้วออก คือราคาที่ผมต้องจ่าย ผมก็จะทำแบบนั้น"
อารัน ซาเลฟสกี กัปตันทีม กล่าวว่า การตัดสินใจครั้งนี้ทำให้ทั้งทีมตกตะลึง แต่ท้ายที่สุดแล้วพวกเขาก็ยังคงสนับสนุน ดอว์สัน "พวกเราไม่รู้จริงๆ ว่าจะคิดยังไง แล้วเราก็ได้ยินมาว่าเขาไปโรงพยาบาลแล้วตัดนิ้วตัวเองออก ซึ่งน่าสนใจทีเดียว เพราะผมรู้ว่าบางครั้งคนจะยอมสละแขน ขา หรือแม้กระทั่งนิ้วเพียงเล็กน้อยเพื่อให้ได้มาซึ่งบางอย่าง"
...
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ดอว์สันต้องเผชิญอาการบาดเจ็บสาหัส เขาเกือบจะสูญเสียดวงตาข้างหนึ่งหลังจากถูกไม้ฮอกกี้ฟาดก่อนการแข่งขันกีฬาเครือจักรภพ 2018 เขาสามารถเล่นให้กับทีมชาติได้ จนกระทั่งทีมสามารถคว้าเหรียญทองในการแข่งขันครั้งนั้น และอีกครั้งเมื่อพวกเขาคว้าเหรียญเงินในการแข่งขันโอลิมปิกที่โตเกียว.
ที่มา BBC
ติดตามข่าวต่างประเทศเพิ่มเติมที่ https://www.thairath.co.th/news/foreign