คามาลา แฮร์ริส ขึ้นเวทีหาเสียงครั้งแรกที่รัฐวิสคอนซิน แจกแจงนโยบายสำคัญ พร้อมโจมตีโดนัลด์ ทรัมป์ เป็นคนร้าย และตัวเธอในฐานะอดีตอัยการก็รู้ว่า ทรัมป์เป็นคนร้ายประเภทไหน

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า รองประธานาธิบดี คามาลา แฮร์ริส ขึ้นเวทีหาเสียงครั้งแรกต่อหน้าผู้สนับสนุนหลายพันคนที่โรงเรียนมัธยมปลาย ในเมืองมิลวอกี รัฐวิสคอนซิน ในวันอังคารที่ 23 ก.ค. 2567 โดยเธอระบุว่า จะใช้ช่วงเวลาไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า เพื่อรวมพรรคเดโมแครตเป็นหนึ่งเดียว กันถึงวันประชุมใหญ่แห่งชาติในเดือนสิงหาคม

แฮร์ริสเปิดเผยนโยบายหลายอย่างที่เธอจะให้ความสำคัญเป็นลำดับแรกๆ ในการปราศรัยของเธอ รวมถึง การแก้ปัญหาเด็กยากจน, สิทธิสหภาพ, บริการสุขภาพราคาย่อมเยา และ การเกษียณอายุอย่างภูมิฐาน เธอยังมุ่งเน้นเรื่องการควบคุมอาวุธปืน และการเข้าถึงการทำแท้ง โดยเธอให้คำมั่นว่าจะหยุดทรัมป์ที่จะแบนการทำแท้งให้ได้

เธอยังใช้เวทีนี้โจมตีโดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนพรรครีพับลิกันไปชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในศึกเลือกตั้งซึ่งจะจัดขึ้นในเดือนพฤศจิกายนนี้ โดยระบุว่า การเลือกตั้งดังกล่าวจะเป็นการต่อสู้กันระหว่าง อดีตอัยการกับคนร้ายผู้ถูกตัดสินว่ามีความผิด เธอยังเชื่อมโยงนายทรัมป์กับจอมฉ้อฉลที่เธอเคยเจอตอนเป็นอัยการรัฐแคลิฟอร์เนียด้วย

“ฉันเคยเจอผู้กระทำผิดมาทุกรูปแบบแล้ว” แฮร์ริสบอกกับผู้สนับสนุนหลายพันคน “คนร้ายผู้ทารุณผู้หญิง, จอมฉ้อฉลที่ปอกลอกผู้บริโภค, จอมโกงผู้แหกกฎเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง”

“ดังนั้น โปรดฟังฉันในตอนที่ฉันพูดว่า ฉันรู้ว่าโดนัลด์ ทรัมป์ เป็นคนประเภทไหน” แฮร์ริสกล่าวต่อ “ในการหาเสียงนี้ ฉันขอสัญญากับพวกคุณ ฉันจะนำประวัติของฉันไปเผชิญหน้ากับเขาอย่างภาคภูมิในทุกที่ทุกเวลา”

...

คำพูดของแฮร์ริสทำให้กลุ่มผู้สนับสนุนตะโกนเชียร์กึกก้องว่า “คามาลา! คามาลา!” ซึ่งผู้สังเกตการณ์บางคนบอกว่า ความกระตือรือร้นของคนดูนั้นมากมาย ตรงกันข้ามกับที่เห็นในงานหาเสียงของไบเดนตลอดการเลือกตั้งครั้งนี้เลย

ด้านโดนัลด์ ทรัมป์ โพสต์ข้อความตอบโต้ผ่าน Truth Social เครือข่ายสังคมออนไลน์ของเขา โดยตอกกลับว่า ผลโพลชี้ว่า แฮร์ริสเป็นรองประธานาธิบดีที่ความนิยมน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ

นายทรัมป์ยังแชร์โพสต์ที่ GovTrack เว็บไซต์เก็บข้อมูลสถิติการโหวตและการเข้าร่วมประชุมของสมาชิกสภาคองเกรส ซึ่งจัดให้ แฮร์ริส เป็นหนึ่งใน สว.หัวเอียงซ้ายที่สุดในตอนที่เธออยู่ในตำแหน่ง

อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ บอกกับนักข่าวระหว่างการสนทนาทางโทรศัพท์ด้วยว่า แฮร์ริสเป็นคนฝ่ายซ้ายหัวรุนแรง แต่ประเทศนี้ไม่อยากได้คนฝ่ายซ้ายหัวรุนแรงมาทำลายมัน “ผมคิดว่าเธอน่าจะรับมือง่ายกว่าไบเดน เพราะเขาเป็นที่รู้จักมากกว่านิดหน่อย แต่ก็ไม่ได้มากขนาดนั้น”

ทรัมป์บอกด้วยว่าเขาเปิดกว้างเรื่องการโต้อภิปราย หรือ ดีเบต ในเดือนกันยายน ซึ่งเดิมทีเขาต้องปะทะกับนายไบเดน “ผมยังไม่ได้ตกลงอะไร ผมตกลงดีเบตกับ โจ ไบเดน แต่ผมก็อยากจะดีเบตกับเธอนะ เธอก็คงไม่แตกต่างกัน”

ทั้งนี้ หลัง โจ ไบเดน ประกาศถอนตัวจากศึกชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในปีนี้ เมื่อบ่ายวันอาทิตย์ และให้การสนับสนุน คามาลา แฮร์ริส แทน โมเมนตัมของเธอก็เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยที่สมาชิกคนสำคัญของพรรคเดโมแครต ต่างออกมาแสดงตัวสนับสนุนเธอ ขณะที่เงินบริจาคก็หลั่งไหลเข้ามาถึง 100 ล้านดอลลาร์ ภายใน 36 ชั่วโมง

ขณะที่การสำรวจความคิดเห็นของ รอยเตอร์ส/อิปซอสส์ ซึ่งจัดทำเมื่อวันจันทร์และอังคารที่ผ่านมา ชี้ว่า แฮร์ริสมีคะแนนนำนายทรัมป์อยู่ที่ 44% ต่อ 42% ต่างจากตอนไบเดนที่มีคะแนนตามหลังทรัมป์อยู่ 2% โดยมีส่วนต่างความผิดพลาดอยู่ที่ บวกหรือลบ 3%

ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign

ที่มา : bbc