การประชุม สว.นัดแรก วันนี้จะเห็นภาพของการ ยึดอำนาจสภาสูงแบบเบ็ดเสร็จ จาก ขั้วอำนาจการเมือง ที่ รัฐธรรมนูญ เปิดช่องเอาไว้ให้อ้าซ่า จะไปโทษกลุ่มการเมืองกลุ่มนั้นกลุ่มนี้ไม่ถูกที่คัน เมื่อมีช่องทางที่ไม่ขัดกับกฎหมายแต่ขัดกับความรู้สึก จะไปทำอะไรได้ นอกจากทนๆกันไปจนกว่าจะครบวาระ เมื่อ กกต. ไม่กลั่นกรองผู้ที่จะมาใช้อำนาจแทนประชาชนให้รอบคอบ พฤติกรรมและจริยธรรม ของ สว.ที่เป็นข่าวคึกโครม จะไปอ้างว่าเป็น สว.ชุดที่ดีกว่า สว.ชุดที่แล้วที่มาจากทหาร จึงฟังไม่ขึ้น ใครจะเป็นประธาน สว.หรือรองประธาน สว.ไม่ได้มีผลได้ผลเสียกับชาวบ้าน แต่เป็นผลดีผลเสียกับภาคการเมืองและพรรคการเมือง ไปชิงอำนาจกันเอาเอง
ความรุนแรงทางการเมือง ประมาทไม่ได้ ดูตัวอย่างเหตุจลาจล ในกรุงธากา เมืองหลวงของบังกลาเทศ การชุมนุมประท้วงของนักศึกษาที่ไม่พอใจกับนโยบายรัฐโดยเฉพาะการลิดรอนสิทธิและเสรีภาพที่ไปเกี่ยวข้องกับเอกราชของบังกลาเทศ กลายเป็นชนวนความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลกับประชาชนที่มาจากการกำหนดเกณฑ์การเข้าทำงานในภาครัฐ เป็นน้ำผึ้งหยดเดียว ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต กว่า 100 ราย
โลกภายนอก ไม่รู้ถึงความรุนแรงที่เกิดขึ้นใน บังกลาเทศ เพราะ รัฐบาลสั่งตัดอินเตอร์เน็ตและการติดต่อสื่อสารทั้งหมด ความเคลื่อนไหวส่วนใหญ่จะรู้จากสำนักข่าวต่างประเทศเท่านั้น
โลกของความทันสมัยมีทั้งบวกทั้งลบ สะดวกรวดเร็วสื่อสารกว้างไกล แต่ระบบเกิดล่มขึ้นมา ไม่สามารถใช้งานติดต่อเชื่อมโยงการสื่อสารได้ ทุกอย่าง ก็จบ กลุ่มไมโครซอฟท์ที่ชื่อว่า บริษัทคราวด์สไตรค์ บริษัทด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ หรือโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล ถูกโจมตีทางไซเบอร์เสียเอง เสียการทรงตัวทำให้ระบบเช็กอิน ระบบธนาคารและระบบสาธารณสุขทั่วโลก พิการไป 4-5 ชั่วโมง การใช้ชีวิตของประชาชนปั่นป่วนไปหมด แม้ผู้บริหาร จะออกมาแก้ตัวว่า ไม่ใช่เกิดจากการถูกโจมตีแต่เป็นการอัปเดตซอฟต์แวร์ แต่ผลออกมาก็ไม่ต่างกัน
...
ทำให้ความเชื่อถือของ คราวด์สไตรค์ ลดลงทันที หุ้นก็พลอยตกไปด้วย ปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์ระบบล่มในครั้งนี้ เกิดขึ้นเร็วและมีผลกระทบเร็ว ก็เพราะระบบการสื่อสารที่เป็นดาบสองคม ที่จะมีผลต่อการเมือง เศรษฐกิจและสังคม อาทิ การเลือกตั้งประธานาธิบดี สหรัฐฯ ใครจะคิดว่าเกิดเหตุการณ์ผันผวนทำให้ ทรัมป์ มีคะแนนนำ ไบเดน ชนิดหายห่วงจนถึงขนาดฟันธงว่า ทรัมป์ คือประธานาธิบดีสหรัฐฯคนต่อไป
การเลือกตั้งที่อังกฤษ ที่ผ่านมาพลิกล็อก พรรคแรงงาน ที่เป็นพรรคฝ่ายค้านได้เสียงร้อยละ 40 ได้ สส.มา 409 คนจาก 650 คนส่วนพรรครัฐบาลพรรคอนุรักษนิยมได้ สส.มาแค่ 119 คน นายกฯคนเดิมลาออกจากตำแหน่ง เพื่อให้ นายกฯคนใหม่ มาทำหน้าที่ทันที ไม่มีการยื้อเวลา แพ้ก็คือแพ้ ฝรั่งเศสเลือกตั้ง สส.เขตกันสองรอบ ปรากฏว่า พรรคขวาจัด ที่มีนโยบายชาตินิยมได้เสียง สส.มาเกินครึ่ง ส่วน พรรครัฐบาล ได้ สส.เขตมาเกือบจะรั้งท้าย นายกฯประกาศลาออก แต่ประธานาธิบดีขอให้ทำงานต่อไปก่อน ทุลักทุเลกันไป
กลายเป็นรัฐบาลที่มีเสียงข้างน้อยในสภาทันที ส่วนตัวประธานาธิบดี มาครง ตอนนี้ถูกแซะ ตั้งแต่เรื่องสากกะเบือยันเรือรบ เช่นถูกสื่อทวงถามว่าเมื่อไหร่จะลงว่ายในแม่น้ำแซนเพื่อเป็นการยืนยันว่ามีความปลอดภัยก่อนที่จะมีการจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2024 เป็นผู้นำพูดอะไรไว้ก็ต้องจำได้และทำได้ด้วย ไม่ใช่หาข้ออ้างแก้ตัวไปวันๆ.
หมัดเหล็ก
mudlek@thairath.co.th