จากกรณีความขัดข้องในการอัปเดตซอฟต์แวร์ “ฟอลคอน เซ็นเซอร์” ของบริษัทคราวด์สไตรก์ ผู้ให้บริการระบบรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์แก่ระบบปฏิบัติการไมโครซอฟต์วินโดวส์ ซึ่งทำให้ระบบคอมพิวเตอร์ขึ้นจอฟ้าล่มระเนนระนาดทั่วโลกนั้น ทางบริษัทไมโครซอฟต์ได้ชี้แจงว่า จากการตรวจสอบตั้งแต่วันเกิดเหตุ 19 ก.ค. ทำให้พบว่ามีคอมพิวเตอร์ได้รับผลกระทบกว่า 8.5 ล้านเครื่องทั่วโลก สัดส่วนนี้ต่ำกว่า 1% ของผู้ใช้งานวินโดวส์ทั้งหมด
กระนั้น ทางสำนักข่าวบีบีซีอังกฤษโจมตีว่า เหตุการณ์ครั้งนี้อาจเป็นวิกฤติทางไซเบอร์ครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ และเหตุก่อนหน้านี้คือระบบคอมพิวเตอร์ถูกโปรแกรม “วอนนาคราย” แฮ็กเรียกค่าไถ่ (บังคับให้จ่ายเงิน มิฉะนั้นจะถูกลบข้อมูลทั้งหมด) ในปี 2560 ที่ส่งผลกระทบต่อคอมพิวเตอร์กว่า 300,000 เครื่องใน 150 ประเทศ
วันเดียวกัน หน่วยความมั่นคงไซเบอร์ในอังกฤษและออสเตรเลียประกาศเตือนประชาชนให้ระมัดระวังกลุ่มมิจฉาชีพที่อ้างตัวว่าสามารถแก้ไขปัญหาระบบวินโดวส์ขึ้นจอฟ้าครั้งนี้ หลังพบหลักฐานว่าในช่วง 2 วันที่ผ่านมา กลุ่มแฮกเกอร์ต่างๆได้ทำการจดทะเบียนเปิดเว็บไซต์ ที่ดูเหมือนเว็บไซต์ของวินโดวส์หรือคราวด์สไตรก์ หรือหน่วยงานรัฐ และอ้างว่าหากดาวน์โหลดซอฟต์แวร์จากเว็บไซต์นี้ ก็จะแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นได้ ซึ่งในความเป็นจริงแล้วซอฟต์แวร์เหล่านั้นคือโปรแกรมเจาะระบบล้วงข้อมูลส่วนตัว ขอเน้นย้ำให้แผนกไอทีหรือประชาชนทั่วไปตรวจสอบให้แน่ชัดว่าเป็นการขอคำปรึกษาแก้ไขปัญหาจากเว็บไซต์ของจริง และอย่าทำการกดลิงก์หรือดาวน์โหลดโปรแกรมใดๆ
ด้านบริษัทคราวด์สไตรก์ชี้แจงเพิ่มเติมว่า ขอยืนยันว่าเหตุการณ์ครั้งนี้ไม่ใช่การโจมตีทางไซเบอร์ ปัญหาได้ถูกตรวจพบและอยู่ระหว่างการแก้ไข ขอให้ลูกค้าเข้าไปที่ฝ่ายสนับสนุนในเว็บไซต์ของบริษัท และทำการดาวน์โหลดตัวอัปเดตเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นกับระบบวินโดวส์ บริษัทมีความเข้าใจอย่างยิ่งว่าสถานการณ์ครั้งนี้ใหญ่หลวงเพียงใด และขออภัยอย่างสูงต่อผลกระทบที่เกิดขึ้น
...
ส่วนสำนักข่าวยูเอสเอทูเดย์ในสหรัฐฯ รายงานว่า นับตั้งแต่วันที่ 19 ก.ค. จนถึงช่วงเย็นวันที่ 20 ก.ค. ที่ผ่านมา มีสายการบินในสหรัฐฯถูกยกเลิกเที่ยวบินกว่า 2,600 เที่ยว ตารางบินล่าช้าเกือบ 9,200 เที่ยว ขณะที่สำนักข่าวซีเอ็มจีรายงานก่อนหน้านี้ว่า สายการบินหลักๆในประเทศจีนไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ครั้งนี้ เนื่องจากใช้ระบบไอทีที่แตกต่างกัน เช่นเดียวกับโฆษกรัฐบาลรัสเซียระบุในทำนองเดียวกันว่า ระบบคมนาคมทั้งสายการบินและรถไฟของรัสเซียไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด.