คามาลา แฮร์ริส หญิงผิวดำคนแรก ผู้อาจได้เป็นแคนดิเดตไปชิงเก้าอี้ ปธน.

• โจ ไบเดน ประกาศถอนตัวจากการชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ แล้ว หลังจากถูกกดดันอย่างหนัก โดยเขาสนับสนุน คามาลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีของเขา ให้เป็นตัวแทนพรรคแทน
  
  
• คามาลา แฮร์ริส มีโอกาสได้เป็นผู้หญิงผิวดำและชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียคนแรก ที่ได้เป็นตัวแทนพรรคใหญ่ของสหรัฐฯ ไปชิงตำแหน่งประธานาธิบดี
  
  
• มีการเปิดเผยว่า ฝ่ายสนับสนุนแฮร์ริสในเดโมแครต เริ่มเคลื่อนไหวเพื่อช่วยแฮร์ริสมาหลายสัปดาห์แล้ว ไม่ใช่เพื่อกันไบเดนออกไป แต่เผื่อเอาไว้ในกรณีที่ไบเดนตัดสินใจถอนตัว
  
  

คามาลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยืนยันว่าเธอตั้งใจที่จะชิงตำแหน่งตัวแทนพรรคเดโมแครต หลังประธานาธิบดี โจ ไบเดน ยอมหลีกทางและกล่าวสนับสนุนเธอ ซึ่งหากสำเร็จ แฮร์ริสจะกลายเป็นหญิงผิวดำคนแรก และชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียคนแรก ที่ได้เป็นแคนดิเดตพรรคใหญ่ของสหรัฐฯ ไปชิงตำแหน่งประธานาธิบดี

ความเคลื่อนไหวของแฮร์ริสเกิดขึ้นหลังจาก เมื่อวันอาทิตย์ ที่ 21 ก.ค. 2567 โจ ไบเดน ประกาศยุติแคมเปญหาเสียงเพื่อชิงตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ อีกสมัยแล้ว หลังถูกกดดันอย่างหนักจากสมาชิกภายในพรรค ซึ่งไม่เชื่อมั่นว่าไบเดนจะสามารถชนะ โดนัลด์ ทรัมป์ ในการเลือกตั้งเดือนพฤศจิกายนนี้ได้ หลังเขาทำผลงานได้ย่ำแย่ในการดีเบตเมื่อเดือนมิถุนายน

แต่ถึงแม้แฮร์ริสจะได้รับการสนับสนุนและรับรองจากประธานาธิบดี ก็ยังไม่แน่ว่า เธอจะได้เป็นตัวแทนพรรคหรือไม่ หรือเดโมแครตจะมีกระบวนการในการเลือกตัวแทนพรรคคนใหม่อย่างไร และในขณะที่พรรคพวกของ น.ส.แฮร์ริส กำลังพยายามผลักดันอย่างหนักเพื่อให้เธอได้รับการเสนอชื่อ แต่สมาชิกเดโมแครตบางคนก็ไม่ได้แสดงการสนับสนุนเธออย่างชัดเจน

แฮร์ริสมีโอกาสได้เป็นตัวแทนพรรคแค่ไหน?

นายเจมี แฮร์ริสัน ประธานคณธกรรมการแห่งชาติของพรรคเดโมแครต ระบุในแถลงการณ์ว่า ภายในไม่กี่วันข้างหน้า ทางพรรคจะมีกระบวนการอย่างเป็นระบบและโปร่งใส เพื่อก้าวต่อไปข้างหน้าในฐานะพรรคเดโมแครตที่รวมกันเป็นหนึ่งเดียวเบื้องหลังแคนดิเดตเพียง 1 คน ผู้ที่สามารถโค่น โดนัลด์ ทรัมป์ ในเดือนพฤศจิกายนได้

ในทางทฤษฎีแล้ว เป็นเรื่องปกติที่ น.ส.แฮร์ริส ในฐานะรองประธานาธิบดี จะเป็นผู้สืบทอดของนายไบเดน เธออาจรับช่วงต่อแคมเปญหาเสียงและทรัพยากรของเขามา นอกจากนั้น ผลโพลในช่วงไม่นานมานี้ยังชี้ว่า แฮร์ริสมีโอกาสดีกว่าทั้งไบเดนและสมาชิกเดโมแครตคนอื่นๆ หากเธอได้เป็นตัวแทนพรรคไปชิงตำแหน่งประธานาธิบดีกับโดนัลด์ ทรัมป์

แน่นอนว่า การเสนอชื่อคนอื่นเป็นตัวแทนพรรคข้ามหัวแฮร์ริสก็เป็นสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้ ไม่ผิดกฎใดๆ แต่การทำเช่นนั้นก็อาจต้องเผชิญปฏิกิริยาตอบโต้จากฝ่ายสนับสนุนรองประธานาธิบดีผู้นี้ และเหล่าสมาชิกพรรคเดโมแครตผิวดำผู้มีอิทธิพลภายในพรรค

เดิมที แฮร์ริสก็ถูกวางตัวเป็นว่าที่แคนดิเดตของพรรค เพื่อชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในปี 2571 (2028) อยู่แล้ว แม้ว่าตลอดการเป็นรองประธานาธิบดีที่ผ่านมา เธอยังไม่สามารถแสดงบทบาทของตัวเองอย่างชัดเจน และต้องหัวหมุนรับมือปัญหายากๆ หลายอย่าง เช่น สิทธิ์ในการโหวต และกลุ่มผู้อพยพจากแอฟริกากลาง

ความพยายามของเธอในการสนับสนุนกฎหมายสิทธิ์ในการโหวตของเธอล้มเหลวในสภาคองเกรส ส่วนในเรื่องผู้อพยพ เธอถูกฝ่ายขวาโจมตีที่ไม่ให้เวลากับการจัดการปัญหาชายแดน ขณะที่ฝ่ายซ้ายตำหนิเธอที่ไปบอกผู้อพยพว่า “อย่ามา” สหรัฐฯ จนทำให้เกิดความกังวลว่า มุมมองในด้านลบที่มีต่อแฮร์ริส จะกระทบต่อโอกาสการเป็นแคนดิเดตพรรคของเธอ

แต่ในช่วงหลายสัปดาห์นับตั้งแต่ไบเดนทำพลาดครั้งใหญ่ในการดีเบตเดือนมิถุนายน แฮร์ริส กลับสามารถทำหน้าที่เป็นผู้สนับสนุนแคมเปญเลือกตั้งของไบเดนได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเฉพาะในเรื่องอนามัยการเจริญพันธุ์ และภัยคุกคามที่ทรัมป์มีต่อความเป็นประชาธิปไตย

ตอนนี้ผู้สนับสนุนของแฮร์ริส ออกมาพูดอย่างมั่นใจว่า อเมริกากำลังได้เห็นแฮร์ริสตัวจริงที่พวกเขาเห็นมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา

เส้นทางการเมืองของแฮร์ริส

คามาลา แฮร์ริส เป็นลูกสาวของนักเคลื่อนไหวทางการเมืองในเมืองเบิร์คลีย์ รัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเป็นผู้อพยพจากอินเดียกับจาเมกา เธอเติบโตขึ้นในเมืองโอ๊คแลนด์ ได้ปริญญาสาขานิติศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย และเริ่มต้นสายอาชีพการเมืองในย่านเบย์ แอเรีย ก่อนจะได้เป็นรองอัยการเขตแอละเมดา เคาน์ตี

ในปี 2546 แฮร์ริสได้รับเลือกเป็นอัยการเขตเมืองซานฟรานซิสโก และ 7 ปีหลังจากนั้นก็ได้รับเลือกเป็นอัยการสูงสุดของรัฐแคลิฟอร์เนีย โดยเธอเป็นผู้หญิงคนแรก, คนผิวดำคนแรก และชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียคนแรก ที่ได้รับตำแหน่งนี้

ผลงานด้านกฎหมายของแฮร์ริสเป็นทั้งประโยชน์และภาระต่อทั้งการลงสมัครชิงตำแหน่ง สว. และรองประธานาธิบดีของเธอ โดยหนึ่งในนโยบายที่เป็นข้อถกเถียงที่สุดของเธอคือ โครงการต่อต้านการหนีเรียน ซึ่งอนุญาตให้พ่อแม่มีความผิดลหุโทษ หากลูกของพวกเขาขาดเรียนมากเกินไป ส่งผลให้พ่อแม่ถูกจับกุมไปหลายคน โดยแฮร์ริสกล่าวในภายหลังว่า เธอเสียใจต่อผลกระทบที่เกิดขึ้นโดยไม่ตั้งใจเพราะโครงการนี้

ในปี 2559 แฮร์ริสได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง สว.รัฐแคลิฟอร์เนีย รับตำแหน่งแทน นางบาร์บารา บ็อกเซอร์ ซึ่งกำลังจะหมดวาระ ทำให้เธอกลายเป็นผู้หญิงผิวดำคนที่ 2 ที่ได้เป็นสมาชิกวุฒิสภาสหรัฐฯ

ระหว่างเป็น สว. แฮร์ริสได้เข้าร่วมการไต่สวนของคณะกรรมาธิการวุฒิสภาหลายครั้ง และเป็นที่รู้จักอย่างมากจากสไตล์การถามคำถามแบบอัยการของเธอ ระหว่างการซักถามเจ้าหน้าที่และนอมินีที่รัฐบาลของโดนัลด์ ทรัมป์ เสนอชื่อ รวมถึงอัยการสูงสุด เจฟฟ์ เซสชัน และ เบรตต์ คาวานอ ซึ่งปัจจุบันเป็นอัยการศาลสูงสุดสหรัฐฯ

3 ปีต่อมา ในเดือนมกราคม 2562 แฮร์ริสเข้าร่วมศึกเลือกตั้งภายในพรรคเดโมแครตแบบไพรมารี เพื่อชิงตำแหน่งตัวแทนพรรคไปลงเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี 2563 และเล่นงาน โจ ไบเดน อย่างหนักในการดีเบต ด้วยการขุดเรื่องที่ไบเดนเคยต่อต้านโครงการรถรับส่งนักเรียนแบบไม่แบ่งแยกสีผิว เพื่อขจัดการแบ่งแยกเชื้อชาติ

แต่ในท้ายที่สุด แฮร์ริสก็ถอนตัวจากการชิงตำแหน่งตัวแทนพรรค และกลายมาเป็นผู้สนับสนุนคนสำคัญของนายไบเดน ก่อนที่เขาจะเลือกให้เธอเป็นคู่หูไปชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ

ฝ่ายหนุนแฮร์ริเคลื่อนไหวมานับสัปดาห์แล้ว

ตอนนี้สมาชิกพรรคเดโมแครตและผู้บริจาคเริ่มรณรงค์สนับสนุน น.ส.แฮร์ริส มากขึ้นเรื่อยๆ แล้ว รวมถึง บิล กับ ฮิลลารี คลินตัน, แคนดิเดต สว.เดโมแครตหลายคน เช่น แอนดี คิม จากนิวเจอร์ซีย์, แองเจลา ออลโซบรูกส์ จากแมรีแลนด์ และ นายแทมมี บาลด์วิน สว.รัฐวิสคอนซิน

ผู้สนับสนุนของแฮร์ริสเริ่มเคลื่อนไหวในเบื้องหลังตั้งแต่เมื่อสัปดาห์ก่อนแล้ว ในขณะที่ชาวเดโมแครตกำลังรอการตัดสินใจของไบเดน เพื่อให้แฮร์ริสได้รับการสนับสนุนที่เพียงพอจากคณะผู้เลือกตั้ง (delegate) โดยไม่ใช่เพื่อกันไบเดนออกไป แต่เผื่อเอาไว้ในกรณีที่ไบเดนตัดสินใจถอนตัว ซึ่งมันเกิดขึ้นจริงๆ

หนึ่งในนักยุทธศาสตร์อาวุโสของพรรคเดโมแครต ซึ่งเคยทำงานให้ทีมหาเสียงของ น.ส.แฮร์ริส ในปี 2563 บอกกับ ซีเอ็นเอ็น ว่า พวกเขาพยายามรวบรวมคณะผู้เลือกตั้งมาตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา

เครือข่ายผู้สนับสนุนของแฮร์ริสยังรวมถึง กลุ่มสตรีผิวดิวผู้เป็นสมาชิกคนสำคัญของพรรคเดโมแครต ซึ่งคอยเคลื่อนไหวอย่างเงียบๆ มาตลอดหลายสัปดาห์ เพื่อทำให้แน่ใจว่า แฮร์ริสจะอยู่ในตำแหน่งที่ดีพอเป็นผู้นำในการคว้าตั๋วเลือกตั้งของเดโมแครต หากไบเดนยอมหลีกทาง โดยพวกเธอจะประชุมกันผ่านซูม (Zoom) ในช่วงค่ำวันอาทิตย์นี้

พันธมิตรของแฮร์ริสระบุว่า การที่ไบเดนถอนตัวไม่ชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่ 2 และเสนอชื่อแฮร์ริสเป็นตัวแทนพรรคแทนเขานั้น เป็นดินแดนที่ไม่เคยมีใครสำรวจมาก่อน แต่พวกเธอมั่นใจว่า พรรคจะขับเคลื่อนต่อไปได้ภายในไม่กี่วันข้างหน้า เพราะรับรองแฮร์ริสแล้ว

ขณะที่สำหรับผู้บริจาคของเดโมแครต นี่เป็นความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของพรรค ที่หลายคนออกมายอมรับมันอย่างเปิดเผย เช่น นายดีมิทรี เมห์ลฮอร์น นักยุทธศาสตร์การเมืองของเดโมแครต ผู้เป็นที่ปรึกษาแก่ผู้สนับสนุนทางการเงินรายใหญ่ของพรรคหลายเจ้า ออกแถลงการณ์หลังไบเดนประกาศถอนตัวและสนับสนุนแฮร์ริสว่า

“แฮร์ริสคือผู้ที่ถูกยกให้เป็นอเมริกันดรีม เป็นบุตรสาวของผู้อพยพซึ่งพบกันที่แคลิฟอร์เนีย” นายเมห์ลฮอร์น กล่าว “เธอยังมีความทรหด เติบโตจากโอ๊คแลนด์ แคลิฟอร์เนีย บ้านเกิดของผม จนกลายเป็นอัยการสูงสุดของรัฐ เมื่อ โจ จากเมืองสแครนตันถอนตัวไปแล้ว ผมก็รอไม่ไหวที่จะช่วยเลือกประธานาธิบดีแฮร์ริส”

แต่บางคนก็ไม่กระตือรือร้นมากนัก เช่น จอห์น มอร์แกน ผู้บริจาครายใหญ่ของไบเดน ระบุว่า การที่ประธานาธิบดีผู้นี้เลือกสนับสนุนแฮร์ริส เป็นการ “ด่า” ผู้ที่ผลักเขาออกไป “จงระวังสิ่งที่คุณอยากได้นักหนา”





ผู้เขียน : ทิตชนม์ สว่างศรี

ที่มา : cnn , bbc