รัฐมนตรีกระทรวงกีฬาฝรั่งเศส ลงว่ายน้ำในแม่น้ำแซน หวังเรียกความเชื่อมั่นว่าแม่น้ำมีความสะอาดมากพอสำหรับการแข่งขันว่ายน้ำในมหกรรมกีฬาโอลิมปิก ปารีส 2024

รัฐมนตรีกระทรวงกีฬาฝรั่งเศส หวังเรียกความเชื่อมั่นว่าแม่น้ำแซนในกรุงปารีส มีความสะอาดมากพอสำหรับการแข่งขันว่ายน้ำในมหกรรมกีฬาโอลิมปิก ปารีส 2024 ที่จะจัดขึ้นในอีกไม่ถึง 2 สัปดาห์ข้างหน้า

อเมลี อูเดีย-คาสเตรา รมว.กีฬาของฝรั่งเศส หวังเรียกความเชื่อมั่นว่าแม่น้ำแซนในกรุงปารีส จะมีความสะอาดมากพอสำหรับการแข่งขันว่ายน้ำในมหกรรมกีฬาโอลิมปิก ปารีส 2024 ที่จะจัดขึ้นในอีกไม่ถึง 2 สัปดาห์ข้างหน้า

อูเดีย-คาสเตรา ได้ลงว่ายน้ำในแม่น้ำแซน เมื่อวันเสาร์ (13 ก.ค.) ที่ผ่านมา เพื่อลดความกังวลเกี่ยวกับคุณภาพน้ำ โดยเธอสวมชุดบอดี้สูท กระโดดลงไปในแม่น้ำแซน และว่ายน้ำเป็นระยะทางประมาณ 10 เมตร ใกล้สะพานอเล็กซองเดร 3 ซึ่งเป็นสถานที่จัดการแข่งขันว่ายน้ำในมหกรรมโอลิมปิก

เธอกล่าวกับสื่อของฝรั่งเศสว่า เธอได้รักษาสัญญาของเธอที่เคยให้ไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะว่ายน้ำในแม่น้ำแซน ก่อนที่การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกจะเริ่มในวันที่ 26 ก.ค. โดยเธอมาพร้อมกับ อเล็กซิส ฮันกินควอนต์ นักพาราไตรกีฬาทีมชาติฝรั่งเศส ซึ่งจะรับหน้าที่เป็นผู้ถือธงชาติฝรั่งเศสในพิธีเปิดพาราลิมปิก ในวันที่ 28 ส.ค. นี้ ซึ่งร่วมในการว่ายน้ำในแม่น้ำแซน เพื่อสัมผัสกับสภาพของแม่น้ำที่เขาจะเผชิญในการแข่งขันในวันที่ 1 กันยายน

นับตั้งแต่การว่ายน้ำในแม่น้ำแซนถูกห้ามในปี 1923 เนื่องจากระดับมลพิษ นักการเมืองฝรั่งเศสหลายคนเคยให้สัญญาว่าจะทำให้แม่น้ำแซนกลับมาใสสะอาดและว่ายน้ำได้อีกครั้ง โดย นายฌาร์ก ชีรัก อดีตประธานาธิบดีฝรั่งเศส เคยให้คำมั่นในปี 2531 ว่า จะทำให้แม่น้ำแซนมีความสะอาดพอที่จะลงเล่นน้ำได้ในวาระการดำรงตำแหน่งของเขา แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ

...

แอนน์ อีดัลโก นายกเทศมนตรีกรุงปารีส วางแผนที่จะว่ายน้ำในแม่น้ำแซนเพื่อพิสูจน์ความสะอาดของน้ำ ส่วนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง สัญญาว่าจะว่ายน้ำในแม่น้ำแซน แต่เขาเสริมว่า เขาจะไม่แจ้งวันให้ทราบ เพราะอาจมีคนไปคอยสังเกตการณ์

แม้จะมีแผนทำความสะอาดแม่น้ำที่ใช้งบประมาณกว่า 1,400 ล้านยูโร หรือราว 55,200 ล้านบาท แต่ความกังวลยังคงมีอยู่เกี่ยวกับความเหมาะสมของแม่น้ำสำหรับการจัดแข่งขันว่ายน้ำ โดยเมื่อปลายเดือน มิ.ย. จนถึงเดือน ก.ค. พบระดับเชื้ออีโคไลในแม่น้ำแซน เป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกัน.

ที่มา euronews

ติดตามข่าวต่างประเทศเพิ่มเติมที่ https://www.thairath.co.th/news/foreign