เรือเป็นยานพาหนะที่สำคัญในโลกยุคโบราณ ช่วยให้ผู้คนเดินทางจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่งได้ สร้างเครือข่ายทางสังคม แลกเปลี่ยนสินค้าและความคิด ทว่าเมื่อเรืออับปางลงและผ่านช่วงเวลามาหลายร้อยปี การจะระบุลำดับเวลาที่แน่ชัดของเรือในช่วงที่จมลงสู่ก้นมหาสมุทร ไม่ใช่เรื่องง่ายนัก

ล่าสุด ผู้เชี่ยวชาญด้านโบราณคดีคลาสสิกในมหาวิทยาลัยคอร์เนลล์ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ได้วิเคราะห์ความเก่าแก่ของซากเรือสินค้ากรีกโบราณชื่อ คีเรนยา (Kyrenia) ความยาวประมาณ 14 เมตร สร้างขึ้นด้วยไม้และตะกั่ว มีเสากระโดงต้นหนึ่ง มีใบเรือทรงสี่เหลี่ยม ที่ต่อขึ้นมาในยุคเฮลเลนิสติกตอนต้น ซึ่งจมอยู่นอกชายฝั่งทางตอนเหนือของไซปรัส และถูกค้นพบในปี พ.ศ.2508 โดยอาศัยการคาดเดาอายุจากสินค้าที่บรรทุกบนเรือ เพราะสิ่งของที่อยู่ภายในเรืออับปางสามารถบอกได้อย่างเฉพาะเจาะจงว่ามีการซื้อขายหรือแลกเปลี่ยนสิ่งของใดบ้าง ผู้คนเดินทางไปมาทางทะเลที่ใดและอย่างไร กลุ่มคนใดติดต่อกัน และพวกเขาได้รับผลกระทบจากเครือข่ายทางสังคมและเศรษฐกิจในยุคแรกๆ เหล่านี้อย่างไร

...

ผู้เชี่ยวชาญเผยว่า บนเรือมีภาชนะดินเผาขนาดใหญ่ที่มีหูจับ 2 ข้างเกือบ 400 โถ บางโถบรรจุอัลมอนด์และบางโถบรรจุไวน์ ทั้งยังมีหินโม่หนักๆเป็นหินถ่วง และน่าจะเคยมีลูกเรือ 4 คน เรือลำนี้จมห่างจากชายฝั่งไป 1.6 กิโลเมตร การวิเคราะห์วัสดุอินทรีย์จากซากเรือ ทั้งไม้ที่ประกอบสร้างเป็นเรือ อัลมอนด์ วัสดุที่ทำจากกระดูกสัตว์ ทีมสรุปได้ว่าเรือคีเรนยาจมลงเมื่อประมาณ 280 ปีก่อนคริสตกาล.

อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่