ตำรวจออสเตรเลียตามจับกุมตัววัยรุ่นชายวัย 14 ปี หลังก่อเหตุแทงชายวัย 22 ปี ภายในมหาวิทยาลัยซิดนีย์ จนบาดเจ็บสาหัสและหลบหนีไป ทำให้ทางมหาวิทยาลัยต้องประกาศล็อกดาวน์อาคารต่างๆ

เจ้าหน้าที่หน่วยฉุกเฉินเร่งนำตัวชายวัย 22 ปี ส่งโรงพยาบาล หลังถูกมือมีดซึ่งเป็นวัยรุ่นชายวัย 14 ปี ใช้อาวุธมีดแทงจนอาการสาหัส เคราะห์ดีที่ล่าสุดอาการปลอดภัยแล้ว

ขณะที่ตำรวจสามารถตามไปจับกุมมือมีดรายนี้ได้ใกล้กับโรงพยาบาล พร้อมประกาศให้ประชาชนอยู่ในความสงบ ยืนยันว่าเหตุการณ์นี้ไม่ได้ส่งผลให้เกิดความเสี่ยงต่อชุมชน โดยระบุว่าทั้งคนร้ายและผู้บาดเจ็บไม่ได้รู้จักกันมาก่อน

ด้าน โฆษกของมหาวิทยาลัยซิดนีย์ ระบุว่า ตำรวจยังคงปิดล้อมพื้นที่เพื่อตรวจสอบและเก็บหลักฐานภายในวิทยาเขตแคมเปอร์ดาวน์ โดยยังคงมีการวางกำลังเจ้าหน้าที่ส่วนหนึ่งไว้ภายในมหาวิทยาลัย ในระหว่างที่เดินหน้ากระบวนการสอบสวน

เหตุโจมตีครั้งนี้มีขึ้นหลังจากราว 2 เดือนก่อน เพิ่งเกิดเหตุมือมีดไล่แทงคนบริเวณห้างริมชายหาดบอนได ในนครซิดนีย์ ออสเตรเลีย และยังมีเหตุวัยรุ่นชายวัย 16 ปี แทงบิชอปขณะประกอบพิธีมิสซาในโบสถ์ทางตะวันตกของนครซิดนีย์ จนได้รับบาดเจ็บ โดยตำรวจสามารถจับกุมวัยรุ่นชายวัย 16 ปี และตั้งข้อหาก่อการร้าย ขณะที่มือมีดที่ไล่แทงคนที่ห้างถูกตำรวจวิสามัญเสียชีวิต

...

โดยเหตุการณ์ทั้ง 2 ครั้ง ทำให้รัฐบาลท้องถิ่นของรัฐนิวเซาท์เวลส์ของออสเตรเลีย ต้องยกระดับความเข้มข้นของกฎหมายการใช้อาวุธมีด โดยกฎหมายได้ผ่านร่างเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งจะทำให้ตำรวจสามารถใช้อุปกรณ์ตรวจจับโลหะ ตรวจเช็กร่างกายของประชาชนภายในห้าง ภายในสนามกีฬา และสถานีขนส่งได้ โดยไม่ต้องมีหมายแจ้งเตือน นอกจากนี้ กฎหมายดังกล่าว ยังเพิ่มโทษสูงสุดสำหรับการจำหน่ายมีดแก่เด็กอายุต่ำกว่า 16 เป็นค่าปรับราว 11,000 ดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือราว 269,300 บาท หรือจำคุก 12 เดือน หรือทั้งจำทั้งปรับ นอกจากนี้ยังห้ามการจำหน่ายอาวุธมีดให้แก่เด็กอายุ 16 หรือ 17 ปี โดยไม่มีเหตุผลอันสมควรด้วย.

ที่มา : channelnewsasia

คลิกอ่านข่าว แทงคน