สเปน” เป็นประเทศที่เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวทั่วโลก มีรายงานว่าในปี 2566 มีนักท่องเที่ยวแห่แหนเข้าสเปนมากกว่า 85 ล้านคน ถือว่ามากเป็นอันดับ 2 ของโลก จะเป็นรองก็เพียง “ฝรั่งเศส” ที่ครองอันดับ 1 โดยมียอดนักท่องเที่ยวทะลุ 100 ล้านคน

การหลั่งไหลเข้ามาของนักท่องเที่ยวจำนวนมากก็เกิดปัญหาตามมา นั่นคือ “นักท่องเที่ยวล้นเมือง” และหนึ่งในนั้นก็คือ “นครบาร์เซโลนา” ที่ไม่กี่วันก่อนกลายเป็นข่าวครึกโครมว่า บาร์เซโลนาจะไม่อนุญาตให้มีอพาร์ตเมนต์ปล่อยเช่าสำหรับนักท่องเที่ยวภายในปี พ.ศ.2571 เนื่องจากเมืองท่องเที่ยวชื่อดังของยุโรปแห่งนี้ ได้พยายามต่อสู้กับปัญหานักท่องเที่ยวล้นเมือง

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา รัฐบาลสเปนพยายาม ทำให้การเช่าที่พักสำหรับนักท่องเที่ยวยากขึ้น โดยกำหนดให้ต้องมีใบอนุญาต และในช่วง 7 ปีที่ผ่านมา ที่พักสำหรับนักท่องเที่ยวที่ไม่มีใบอนุญาตเกือบ 10,000 แห่ง ถูกปิดตัวลง แต่ยังคงมีที่พักที่ได้รับอนุญาตมากกว่า 10,000 แห่งในเมือง ที่สำคัญคือตลาดการเช่าที่พักระยะสั้นได้เพิ่มขึ้นเกือบ 70% ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา และต้นทุนการซื้อบ้านก็เพิ่มขึ้น 40% ทำให้ชาวเมืองผู้อยู่อาศัยในบาร์เซโลนาจำนวนมากอ่วมอรทัย ที่ต้องจ่ายเงินมากเกินความจำเป็น หรือไม่สามารถจ่ายค่าที่พักในเมืองที่ตนอาศัยอยู่

นอกจากจะจัดระเบียบที่พักอาศัย สภานครบาร์เซโลนายังจะเริ่มกระบวนการการรักษาสมดุลระหว่างความต้องการของชาวเมือง และนักท่องเที่ยวที่ไหลบ่าเข้ามาในพื้นที่ พร้อมกับปรับเปลี่ยนแผนพิเศษในการจัดระเบียบร้านค้าขายของที่ระลึก เพราะร้านขาย ของที่ระลึกในบาร์เซโลนามีการขยายตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในย่านเมืองเก่า ซิวดัด เบยาที่ทางการท้องถิ่นต้องออกกฎหมายควบคุม

...

คณะกรรมาธิการเศรษฐกิจของสภาเมืองจึงอนุมัติให้มีการศึกษากฎหมายสั่งห้ามการขายและการจัดแสดงสินค้าที่ระลึกซึ่งถูกระบุว่า “น่ารังเกียจหรือไร้รสนิยม” โดยบรรดาสินค้าที่เข้าข่ายก็คือ งานออกแบบเป็นอวัยวะเพศชายที่มีตราสินค้าบาร์เซโลนา หรือ เสื้อยืดที่มีข้อความ เหยียดเพศหรือแบ่งแยกเพศ

เพราะสินค้าพวกนี้ทำให้ภาพลักษณ์ของบาร์เซโลนาในฐานะจุดหมายปลายทางด้านท่องเที่ยวเสื่อมเสีย!

ภัค เศารยะ

คลิกอ่านคอลัมน์ “หน้าต่างโลก” เพิ่มเติม