ดีลอส เกาะที่ตั้งเมืองโบราณที่สำคัญที่สุดของกรีกและโรมันยุคก่อนประวัติศาสตร์ กำลังจะจมลงสู่ทะเลอีเจียนภายในไม่กี่สิบปีข้างหน้า เนื่องจากภาวะความเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ
ประเทศกรีซ ขึ้นชื่อเรื่องสถานที่ท่องเที่ยวและเกาะอันสวยงาม เช่น เกาะมีโคนอส ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องความงดงามของบ้านเรือนซึ่งทาสีขาวสะอาดตา กับน้ำทะเลใสกระจ่าง แต่ห่างออกไปไม่ไกลจะเป็นที่ตั้งของเกาะดีลอส สถานที่ตั้งของซากโบราณที่สำคัญที่สุดของประวัติศาสตร์กรีกกับโรมัน ซึ่งได้รับการยกย่องเป็นมรดกโลกขององค์การยูเนสโก
เกาะดีลอส ห้อมล้อมไปด้วยทะเล สิ่งปลูกสร้างอายุกว่า 2,000 ปีของมันเป็นแหล่งข้อมูลจุลภาคอย่างดี ที่บ่งบอกถึงชีวิตประจำวันของผู้คนในสมัยเฮลเลนิสต์และโรมันโบราณ
แต่นักวิทยาศาสตร์เตือนว่าภายในไม่กี่ทศวรรษข้างหน้า สิ่งปลูกสร้างโบราณเหล่านี้ซึ่งรวมถึงวิหารที่มีรูปปั้นสิงโตล้อมรอบ อาจจะหายไปตลอดกาล เนื่องจากระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะภาวะความเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ
“ดีลอส มีชะตาที่ต้องหายไปภายในเวลาประมาณ 50 ปี” ดร.เวโรนิก ช็องโกวสกี กล่าว โดยช็องโกวสกี เป็นหัวหน้าวิทยาลัยฝรั่งเศสแห่งเอเธนส์ (EFA) ซึ่งเป็น 1 ใน 17 สถาบันขุดค้นโบราณสถานที่ดำเนินการอยู่ในกรุงเอเธนส์ของกรีซ และสำรวจซากโบราณบนเกาะดีลอสมาตลอด 150 ปีที่ผ่านมา
ระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นสร้างความเสียหายอย่างเห็นได้ชัดต่อพื้นที่ซึ่งเคยเป็นที่ตั้งของร้านค้ากับอาคารเก็บของในยุค 1-2 ศตวรรษก่อนคริสตกาล
“น้ำทะเลเข้าไปในร้านในช่วงฤดูหนาว กัดเซาะฐานของกำแพง” นาย ฌอง-ชาร์ลส์ โมเรตติ ผู้อำนวยการภารกิจขุดค้นบนเกาะดีลอส และนักวิจัยจากสถาบันเพื่อการวิจัยโบราณสถาน (IRAA) แห่งฝรั่งเศส กล่าว “ทุกปีในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ผมสังเกตเห็นว่ามีกำแพงใหม่ถล่มเพิ่ม”
...
ขณะที่ ดร.ช็องโกวสกี เสริมว่า ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาระดับน้ำทะเลเพิ่มขึ้นสูงสุดถึง 20 ม. ในบางพื้นที่ของเกาะ
ผลการศึกษาของมหาวิทยาลัยอริสโตเตลิโอ ในเมืองเธสซาโลนิกิ ซึ่งเผยแพร่เมื่อปีก่อนพบว่า การเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิกอปรกับระดับความชื้นที่เพิ่มสูง สามารถส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อองค์ประกอบทางเคมีของวัสดุบางชนิดที่ถูกใช้ในการสร้างอนุสรณ์สถานมรดกทางวัฒนธรรมต่างๆ ได้
“เช่นเดียวกับร่างกายมนุษย์ อนุสรณ์สถานเหล่านี้ถูกสร้างให้ทนต่ออุณหภูมิในระดับหนึ่ง” เอฟสตาเธีย ธิงกา นักวิจัยด้านอุตุนิยมวิทยาและสภาพอากาศวิทยา และเป็นหัวหน้าทีมวิจัยของมหาวิทยาลัยอริสโตเตลิโอ กล่าว
นอกจากนั้นปัญหายังรุนแรงขึ้นอีกเนื่องจากนักท่องเที่ยวจากเกาะมีโคนอสฝ่าฝืนเข้าไปในเขตหวงห้าม โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อนซึ่งมีนักโบราณคดีเพียงไม่กี่คนที่คอยตรวจตราพื้นที่ขุดค้น
สำหรับกรีกโบราณ ดีลอส เป็นสถานที่เกิดของ ‘อพอลโล’ เทพเจ้าแห่งแสง, ศิลปะ และการรักษา กับ ‘อาร์ทีมิส’ เทพีแห่งการล่าสัตว์ น้องสาวของพระองค์ และทั้งสองก็เป็นหนึ่งในเทพระดับสูงสุดที่ชาวกรีกกับชาวโรมันโบราณยกย่องบูชา
ในช่วงยุคทองของยุคโรมัน ดีลอส ดึงดูดผู้แสวงบุญและพ่อค้าจากทั่วโลกสมัยโบราณมารวมตัวกัน และขยายกลายเป็นเมืองซึ่งมีประชากรอาศัยอยู่กว่า 30,000 คน แต่ความนิยมในเกาะแห่งนี้ก็นำมาซึ่งหายนะ เมืองถูกบุกปล้นถึง 2 ครั้ง ในช่วง 100 ปีก่อนคริสตกาล จนสุดท้ายชาวบ้านก็ทิ้งเมืองแห่งนี้ไป
ตอนนี้เจ้าหน้าที่ต้องใช้เสาไม้เพื่อช่วยค้ำยันโครงสร้างของกำแพงบางจุด แต่การจะใช้มาตรการที่แข็งแรงกว่านี้นั้นมีความซับซ้อน และต้องได้รับการตอบสนองด้านกฎระเบียบจากหลายภาคส่วน
“เมืองชายฝั่งทุกแห่งจะเสียพื้นที่ที่ปัจจุบันอยู่ในระดับน้ำทะเลไปจำนวนมากอย่างมีนัยสำคัญ” อาเธนา คริสเตียนา โลโป นักโบราณคดีชาวกรีก กล่าว “เราเปลี่ยนไปใช้หลอดกระดาษแทนหลอดพลาสติกแล้ว แต่เราแพ้สงครามในการปกป้องสิ่งแวดล้อมไปแล้ว”.
ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign
ที่มา : thehindu