ก่อนหน้าโลกหยุดชะงักจากโรคระบาดโควิด-19 สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน และสภาการเดินทางและการท่องเที่ยวโลก (WTTC) เผยข้อมูลว่านักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางออกนอกประเทศในปี 2562 มากถึง 155 ล้านครั้ง ด้วยการใช้จ่ายรวมกันสูงถึง 245,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 8.9 ล้านล้านบาท จึงไม่น่าแปลกใจที่หลายประเทศต่างงัดสารพัดกลยุทธ์ “จีบ” ทัพนักเที่ยวจีนที่ได้ชื่อว่ามีกำลังซื้อสูงและจับจ่ายท่องเที่ยวในต่างแดนสูงสุดในโลก

ทั้งนี้ ในปี 2567 ที่ผ่านมาจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักเดินทางชาวจีนส่วนใหญ่ใน 10 อันดับแรก ยังเป็นประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก นำโดย เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น สหรัฐฯ ประเทศไทย ฮ่องกง ไต้หวัน ออสเตรเลีย สิงคโปร์ มาเลเซียและอิตาลี ตามลำดับ ขณะที่ชาวจีนให้ความสนใจไปเที่ยว ออสเตรเลีย และ ญี่ปุ่น เพิ่มขึ้นมากที่สุดเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยเฉพาะในกรุงโตเกียวและนครโอซากาเป็นหมุดหมายสำคัญที่ต้องไปเยือน

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลจาก Trip.com Group บริษัทท่องเที่ยวออนไลน์ใหญ่สุดของจีนแสดงให้เห็นว่ายอดจองทริปไปเที่ยว “ตะวันออกกลาง” ของชาวจีนเพิ่มขึ้น 3 หลัก ในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ ขณะที่แพลตฟอร์ม Petal Ads ของหัวเว่ยระบุว่าระหว่างไตรมาสที่ 1 ปี 2566-ไตรมาสที่ 1 ปี 2567 มีนักท่องเที่ยวจีนมาเยือนตะวันออกกลางเพิ่มขึ้น 54% โดยเฉพาะใน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) รวมทั้งซาอุดีอาระเบีย และอียิปต์ ที่มาแรงได้รับความสนใจอย่างสูง ขณะที่ กาตาร์ โมร็อกโก และอิหร่าน ก็เป็นจุดหมายปลายทางสำคัญเช่นกัน

นักวิเคราะห์ในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวโลกประเมินว่า ปัจจัยสำคัญที่ดึงดูดให้อยากไปเยือนตะวันออกกลาง ได้แก่ ค่าตั๋วเครื่องบินที่ไม่แพงมากนัก และข้อกำหนดด้านวีซ่าที่เรียบง่ายไม่ซับซ้อน ขณะเดียวกันความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่างจีนและประเทศในตะวันออกกลางก็เป็นอีกปัจจัยที่ช่วยสร้างความมั่นใจและช่วยอำนวยความสะดวกสบาย

...

ขณะที่นักท่องเที่ยวจีนเริ่มสนใจสำรวจจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวที่มีชีวิตชีวา ได้สัมผัสธรรมชาติและวัฒนธรรมที่แตกต่างแปลกใหม่มากขึ้น ซึ่งวัฒนธรรมของตะวันออกกลางนั้นมีความ ลึกลับแต่น่าดึงดูด รวมทั้งยังมองหา การท่องเที่ยวด้านกีฬา แต่การเดินทางไปยุโรปและอเมริกานั้นอาจไกลเกินไปเช่นเดียวกับค่าใช้จ่ายสูง ส่วนการไปญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และไทย ไม่ให้ความ รู้สึกเหมือนเดินทางไกลเลย

ใครอยากได้นักเที่ยวจีนคงต้องเดินเกมรุกให้หนักขึ้นกว่าเดิม.

อมรดา พงศ์อุทัย

คลิกอ่านคอลัมน์ “หน้าต่างโลก” เพิ่มเติม