รัฐบาลเพิ่งประกาศตัวจะติดอาวุธคนไทย โดยใช้ เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI พัฒนาประเทศให้ทัดเทียมนานาชาติ ตามกระแสโลกที่กำลังเห่อเรื่อง AI ถึงจุดนี้ถามว่า AI ครองโลกแล้วจริงๆ ใช่ไหม และมันคือจุดเปลี่ยนหรือจุดจบของมนุษยชาติกันแน่

ถ้าวันหนึ่ง AI พัฒนาตัวเองไปถึงขีดสุด จนมนุษย์ไม่สามารถควบคุม AI ได้ หรือเลยเถิดขนาดว่า AI ฉลาดล้ำเกินมนุษย์มากๆ มนุษย์ต้องกลัว AI ใช่ไหม หรือควรอ้าแขนโอบกอด AI อย่างอบอุ่น ในฐานะเพื่อนเกลอที่จะมาช่วยแบ่งเบาภาระทุกสรรพสิ่ง ใครที่สนใจเรื่อง AI ก็จะรู้ว่ามันมีประโยชน์สารพัดจริงๆ โดยเฉพาะการช่วยมนุษย์ทำงานที่ซ้ำซาก, เสริมงานที่มนุษย์ทำอยู่ และทำงานในสายงานที่ขาดแคลนบุคลากร แต่ความฉลาดของ AI นี่แหละ ที่ทำให้มนุษย์หวาดกลัวว่าจะถูกแย่งงานไปอย่างถาวร

อาชีพไหนจะรอดและร่วงในยุค AI ครองเมือง จากงานวิจัยและความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญด้านการทดแทนแรงงานมนุษย์ด้วยการใช้ AI พบว่า ขณะนี้มีหลายอาชีพที่มีความเสี่ยงสูงมากจะถูก AI เข้ามาทดแทนอย่างเต็มรูปแบบ

ลักษณะงานที่ AI สามารถเข้ามาแย่งบทบาทมนุษย์ได้อย่างถาวร คืองานรูทีนซ้ำซากทำแบบเดิมๆโดยไม่เปลี่ยนแปลงขั้นตอน หรือกระบวนการทำงาน

5 อาชีพเสี่ยงตกงานในยุค AI ดิสรัปโลก มีตั้งแต่ “โอเปอเรเตอร์” มีความเสี่ยงถูกแทนที่ด้วย AI ถึง 99% เพราะเป็นอาชีพที่ไม่ต้องใช้ทักษะเฉพาะทาง สามารถใช้ระบบตอบรับอัตโนมัติ โดยไม่ต้องพึ่งมนุษย์เป็นตัวกลางคอยรับโทรศัพท์

อาชีพถัดมาที่เตรียมตัวตกงานเก็บกระเป๋ากลับบ้านคือ “พนักงานบัญชี” เสี่ยงถูกแทนที่ด้วย AI 98% ทุกวันนี้งานด้านบัญชี เช่น การลงรายรับรายจ่ายสามารถใช้โปรแกรมสำเร็จรูปสรุปยอดขายในแต่ละวันได้ด้วยตัวเอง ช่วยให้เจ้าของธุรกิจไม่จำเป็นต้องพึ่งเจ้าหน้าที่บัญชีอีกต่อไป

...

พนักงานส่งของและคนขับรถ” เสี่ยงถูกแทนที่ด้วย AI 94% ในอนาคตพนักงานส่งของจะถูกแทนที่ด้วยโดรนส่งของ หรือหุ่นยนต์ รวมไปถึงรถยนต์ไร้คนขับ ทำให้ไม่มีความจำเป็นต้องมีพนักงานขับรถอีกต่อไป

พนักงานห้างและพนักงานร้านค้าปลีก” มีความเสี่ยงที่จะตกงานเพราะ AI 92% ปัจจุบันมีการใช้ AI ที่สามารถประมวลผลด้วยภาพและข้อมูลจากตัวเซ็นเซอร์ เพื่อดูว่าลูกค้าซื้ออะไรในร้าน แล้วเรียกเก็บเงินค่าสินค้าจากบัญชีของลูกค้าได้ทันที หรือชำระค่าสินค้าผ่าน e-Wallet ในสมาร์ทโฟน โดยไม่จำเป็นต้องมีพนักงานประจำร้านเป็นตัวกลางอีกต่อไป

พนักงานพิสูจน์อักษร” มีความเสี่ยงถูกแทนที่ด้วย AI 84% ทุกวันนี้มีโปรแกรมมากมายที่ช่วยพิสูจน์ตัวอักษร ทำให้
ไม่จำเป็นจะต้องมีเจ้าหน้าที่ปรู๊ฟอีกแล้ว

สำหรับอาชีพที่อยู่รอดแน่ๆในยุค AI ครองเมืองคือ งานด้านฝ่ายบุคคล, ฝ่ายขาย, การตลาด, งานพีอาร์, ประชาสัมพันธ์, งานจัดอีเวนต์, นักข่าว, งานด้านการเขียนเชิงวรรณกรรม และงานด้านกราฟิกดีไซน์ เพราะอาชีพเหล่านี้ใช้ทักษะ “Soft Skill” หากินกับไอเดียความคิดสร้างสรรค์, ทักษะการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า, ต้องติดต่อสัมพันธ์กับผู้คนตลอดเวลา และอาศัยการปรับตัวตามสถานการณ์

แต่ก็อย่าประมาทไปเชียว เพราะในอนาคตอาจมีการพัฒนาเทคโนโลยีก้าวล้ำไปไกลหลายขั้น จน AI ฉลาดล้ำเกินมนุษย์มากๆ บอกได้คำเดียวว่าในยุค AI กำลังจะดิสรัปโลก เมื่อมีคนได้ประโยชน์จาก AI ก็ย่อมมีคนที่เสียประโยชน์จาก AI อย่างแน่นอน.

มิสแซฟไฟร์

คลิกอ่านคอลัมน์ “คนดังอะราวนด์เดอะเวิลด์” เพิ่มเติม