ตำรวจปราบจลาจล ยิงแก๊สน้ำตา และฉีดน้ำ เพื่อสลายการชุมนุมของผู้ประท้วงนอกรัฐสภาในกรุงบัวโนสไอเรส เมืองหลวงของอาร์เจนตินา ในขณะที่วุฒิสภาผ่านความเห็นชอบเบื้องต้นต่อแผนการตัดงบประมาณ
ตำรวจปราบจลาจล ยิงแก๊สน้ำตาและฉีดน้ำเพื่อสลายการชุมนุมของผู้ประท้วงนอกรัฐสภาในกรุงบัวโนสไอเรส เมืองหลวงของอาร์เจนตินา ในขณะที่วุฒิสภาผ่านความเห็นชอบเบื้องต้นต่อแผนการตัดงบประมาณ โดยผู้ประท้วงได้ขว้างระเบิดขวดและก้อนหิน ส่งผลให้รถยนต์หลายคันถูกไฟไหม้ และมีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนหนึ่ง โดยสื่อท้องถิ่นเรียกสถานที่เกิดเหตุว่าเป็น "สนามรบ"
แผนการปฏิรูปที่เสนอโดยประธานาธิบดีฆาเบียร์ มิเล ผู้นำฝ่ายขวา เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ตกต่ำของอาร์เจนตินา ยังรวมถึงการประกาศภาวะฉุกเฉินทางเศรษฐกิจ การตัดเงินบำนาญ และการลดหย่อนสิทธิแรงงาน มาตรการดังกล่าวถูกคัดค้านโดยพรรคการเมืองฝ่ายซ้าย สหภาพแรงงาน และองค์กรทางสังคม
ทั้งนี้ ญัตติซึ่งเดิมซึ่งได้รับเสียงสนับสนุนและคัดค้านเสมอกันที่ 36 ต่อ 36 เสียงในวุฒิสภา ได้รับความเห็นชอบในเบื้องต้นแล้วเมื่อวันพุธ (12 มิ.ย.) หลังจากที่รองประธานาธิบดี วิกตอเรีย บีญารูเอล ประธานวุฒิสภา ยกมือสนับสนุน โดยในขณะนี้จะมีการพิจารณาร่างกฎหมายดังกล่าวทีละจุด ก่อนที่จะได้รับการอนุมัติโดยสมบูรณ์ในวันนี้ (13 มิ.ย.) จากนั้นจะถูกส่งต่อไปที่สภาผู้แทนราษฎรเพื่อดำเนินการต่อขั้นสุดท้าย
ก่อนการผ่านร่างกฎหมายดังกล่าวในวุฒิสภา ผู้ประท้วงต่างตะโกนว่า "ประเทศไม่ได้มีไว้ขาย ประเทศต้องได้รับการปกป้อง" ในขณะที่ป้ายผืนหนึ่งเขียนข้อความว่า "ประมุขแห่งรัฐจะเกลียดชังรัฐได้อย่างไร" การปะทะรุนแรงเกิดขึ้นในช่วงเช้าของวันพุธ ซึ่งผู้ประท้วงพยายามปืนข้ามรั้วเข้าไปยังรัฐสภา โดยผู้ประท้วงขว้างก้อนหินใส่เจ้าหน้าที่ที่ฉีดสเปรย์พริกไทย
...
ผู้สังเกตการณ์ และ สส.ฝ่ายค้านกล่าวว่า ผู้ประท้วงหลายสิบคนและสส.เพียงไม่กี่คนได้รับการรักษาพยาบาล โดยมี สส.ฝ่ายค้านอย่างน้อย 5 คนที่อยู่ในกลุ่มฝูงชนเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล ด้านเจ้าหน้าที่กล่าวว่า ตำรวจอย่างน้อย 20 นายก็ได้รับบาดเจ็บเช่นกัน ส่วนกองกำลังความมั่นคงกล่าวว่า สามารถจับกุมผู้ประท้วงได้ 15 คน ในเวลาต่อมา ตำรวจได้ขับไล่ผู้ประท้วงซึ่งมีรายงานว่าได้จุดไฟเผารถยนต์ 2 คัน รวมถึงรถขององค์กรข่าวแห่งหนึ่งด้วย
ขณะที่สำนักงานของประธานาธิบดีมิเล ออกแถลงการณ์ขอบคุณกองกำลังความมั่นคงที่ปราบปราม "ผู้ก่อการร้าย" ที่พยายามก่อรัฐประหาร
ร่างกฎหมายซึ่งได้รับเสียงต่อต้านอย่างรุนแรง ได้รับการอนุมัติจากสภาผู้แทนราษฎรในเดือนเมษายน หลังจากมีการแก้ไขเพิ่มเติมที่สำคัญ โดยนายมิเลเข้ารับตำแหน่งในปี 2566 หลังจากให้คำมั่นว่าจะลดการใช้จ่ายสาธารณะจำนวนมาก ในช่วงการรณรงค์หาเสียง เขายังโบกเลื่อยไฟฟ้าขณะกล่าวสุนทรพจน์ เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของความมุ่งมั่นของเขาในการปรับลดงบประมาณ และนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เขาได้ปรับลดคณะรัฐมนตรีลงครึ่งหนึ่ง รวมถึงลดตำแหน่งงานข้าราชการ 50,000 ตำแหน่ง การระงับสัญญางานสาธารณะฉบับใหม่ และลดเงินอุดหนุนเชื้อเพลิงและการขนส่ง แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อต่อปีจะแตะระดับ 300% ก็ตาม.
ที่มา BBC
ติดตามข่าวต่างประเทศเพิ่มเติมที่ https://www.thairath.co.th/news/foreign