เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. นายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนนอกรอบการประชุมเศรษฐกิจนานาชาติเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก (SPIEF) ครั้งที่ 27 ถึงสถานการณ์ความขัดแย้งและจุดยืนของรัฐบาลรัสเซียเป็นเวลากว่า 3 ชั่วโมง โดยระบุว่าช่วงนี้มีการหยิบยกประเด็นมาพูดกันรอบใหม่ว่า รัสเซียมีความต้องการที่จะบุกโจมตีชาติสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (NATO) เรื่องนี้อยากถามเหมือนกันว่าไม่มีสติกันแล้วหรือยังไง ปัญหามีกันบ้างไหม ใครเป็นคนคิดเรื่องไร้สาระ เรื่องงี่เง่านี้ขึ้นมา
นายปูตินกล่าวว่า การจุดประเด็นรัสเซียบุกนาโตก็เพื่อไว้หลอกชาวบ้านในเยอรมนี ฝรั่งเศส หรือประเทศอื่นๆในยุโรปให้ตื่นกลัว เพื่อที่ตัวเองจะได้รักษาสถานะความยิ่งใหญ่ของตัวเองไว้ ขอย้ำเหมือนเดิมว่าที่รัสเซียต้องเข้าแทรกแซงสถานการณ์ในยูเครน มาจากสถานการณ์ตั้งแต่ปี 2557 ที่รัฐบาลยูเครนถูกรัฐประหาร ตามด้วยการสังหารประชาชนในภูมิภาคดอนบาส และความล้มเหลวของข้อตกลงสันติภาพมินสก์ ที่เหล่าผู้นำชาติตะวันตกมายอมรับในภายหลังว่า เป็นข้อตกลงที่มีเป้าประสงค์เพื่อซื้อเวลาให้กองทัพยูเครนสะสมกำลัง
ถามว่าสถานการณ์ในยูเครนตอนนี้เป็นเช่นไร นายปูตินตอบว่า กองทัพรัสเซียได้ประเมินตัวเลขเอาไว้ ว่ากองทัพยูเครนมีอัตราการสูญเสียกำลังพลประมาณ 50,000 นายต่อเดือน โดยมีอัตราทหารได้รับบาดเจ็บฟื้นตัว-ไม่ฟื้นตัวอยู่ที่ 50-50 และการที่กองทัพยูเครนพยายามเกณฑ์ทหารใหม่มาเดือนละ 30,000 คนก็ไม่ถือเป็นการแก้ปัญหา เป็นเพียงการเอามาทดแทนทหารชุดก่อนที่บาดเจ็บหรือเสียชีวิต เรื่องนี้อยากบอกให้ทราบกันว่า การที่ยูเครนปรับลดอายุทหารเกณฑ์จากต่ำสุด 27 ปี กลายเป็น 25 ปี ตัวต้นคิดคือรัฐบาลสหรัฐฯ และเอาเข้าจริงรัฐบาลสหรัฐฯต้องการให้ปรับลดลงอีกเป็น 23 ปี เชื่อว่าวันหนึ่งก็คงปรับเป็น 18 ปี หรือ 17 ปี เกณฑ์อายุเป็นทหารต่ำลงเรื่อยๆ
...
ในเรื่องของรัฐบาลสหรัฐฯนั้น นายปูตินมองว่า ไม่มีใครในอเมริกาที่เป็นห่วงยูเครน สิ่งที่อเมริกาทำไปทั้งหมดก็เพื่อความยิ่งใหญ่ของตัวเองและการรักษาความเป็นผู้นำโลก สหรัฐฯในตอนนี้กำลังหมกมุ่นกับความทะเยอทะยานที่จะคุมทั้งโลก แต่ในทางหนึ่งก็ถือเป็นการทำร้ายตัวเองไปเรื่อยๆ แทนที่จะทุ่มเทกำลังดูแลประเทศของตัวเอง สร้างความเข้มแข็งแก่เศรษฐกิจและการเงินในประเทศ พร้อมสร้างสัมพันธ์อันดีกับชาติอื่นๆ การเลือกตั้งสหรัฐฯครั้งนี้เชื่อว่า จะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงอย่างจริงจัง เคยบอกไปแล้วว่านายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ถือเป็นนักการเมืองรุ่นเก๋าที่คาดเดาได้ง่ายกว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทั้งนี้ การสัมภาษณ์ของนายปูตินยังมีขึ้นหลังจากโฆษกรัฐบาลรัสเซียเรียกสหรัฐฯว่าชาติศัตรูเป็นครั้งแรก จากเดิมที่เคยเรียกว่าชาติไม่เป็นมิตร.
อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่