รัฐบาลสเปน, นอร์เวย์ และไอร์แลนด์ ให้การรับรองสถานะรัฐปาเลสไตน์อย่างเป็นทางการแล้ว ท่ามกลางเสียงประณามของอิสราเอล
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ประเทศสเปน, นอร์เวย์ และ ไอร์แลนด์ ให้การรับรองสถานะ รัฐปาเลสไตน์ อย่างเป็นทางการแล้ว ในวันอังคารที่ 28 พ.ค. 2567 ทำให้อิสราเอลออกมาประณามอย่างรุนแรงว่า ทั้ง 3 ประเทศ กำลังให้รางวัลแก่กลุ่มฮามาส หลังจากสงครามในฉนวนกาซาดำเนินมานานกว่า 7 เดือน
สเปน, นอร์เวย์ และไอร์แลนด์ เชื่อว่า การริเริ่มของพวกเขาจะมีผลกระทบเชิงสัญลักษณ์ที่รุนแรงมากพอให้ประเทศอื่นๆ ทำตาม โดยพวกเขายึดถือเส้นเขตแดนปาเลสไตน์ที่กำหนดก่อนเกิดสงครามในปี 2510 เป็นหลัก และให้กรุงเยรูซาเลมเป็นเมืองหลวงของทั้งอิสราเอลและปาเลสไตน์
นายกรัฐมนตรี ไซมอน ฮาร์ริส กล่าวหลังจากรัฐบาลไอร์แลนด์อนุมัติการรับรองสถานะรัฐปาเลสไตน์ว่า เป้าหมายของการตัดสินใจครั้งนี้คือ การรักษาความหวังเรื่องสันติภาพในตะวันออกกลางให้ยังคงอยู่ต่อไป
“เราอยากรับรองปาเลสไตน์ที่ปลายสุดของกระบวนการสันติภาพ อย่างไรก็ตาม เราตัดสินใจทำเช่นนี้เคียงข้างสเปนและนอร์เวย์ เพื่อรักษาปาฏิหาริย์แห่งสันติภาพให้ยังคงอยู่ต่อไป” นายฮาร์ริส กล่าว พร้อมเรียกร้องให้อิสราเอลหยุดสร้างหายนะด้านมนุษยธรรมในฉนวนกาซา
ด้านนายเอสเพน บาร์ธ เอด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของนอร์เวย์ กล่าวหลังการรับรองรัฐปาเลสไตน์มีผลบังคับใช้ว่า นี่เป็นวันพิเศษสำหรับความสัมพันธ์ระหว่างนอร์เวย์กับปาเลสไตน์ ขณะที่ นายโฆเซ มานูเอล อัลบาเรส รัฐมนตรีต่างประเทศสเปน ระบุเช่นกันว่า วันนี้จะได้รับการจารึกในประวัติศาสตร์ของสเปน
ก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรี เปโดร ซานเชซ แห่งสเปน กล่าวว่า การรับรองรัฐปาเลสไตน์นั้นจำเป็นต่อการสร้างสันติภาพ และยืนยันว่าการตัดสินใจทำเช่นนี้ไม่ได้เป็นการแสดงความต่อต้านใคร โดยเฉพาะอย่างยิ่งอิสราเอล และนี่เป็นเพียงทางเดียวเท่านั้นเพื่อให้ได้มาซึ่งอนาคตที่ทั้ง 2 รัฐอยู่เคียงข้างกันอย่างสันติและมั่นคง
...
ผู้นำสเปนย้ำด้วยว่า การตัดสินใจนี้ยังสะท้อนว่าสเปนปฏิเสธกลุ่มฮามาสอย่างสิ้นเชิง เนื่องจากฮามาสต่อต้านวิธีแก้ไขปัญหาแบบ 2 รัฐ และเป็นผู้ก่อเหตุโจมตีเมื่อ 7 ต.ค. จนทำให้สงครามในกาซาอุบัติขึ้น
ทั้งนี้ ความเคลื่อนไหวของสเปน, นอร์เวย์ และไอร์แลนด์ เริ่มขึ้นตั้งแต่สัปดาห์ก่อน ทำให้พวกเขากลายเป็นหนึ่งใน 145 ประเทศ จากสมาชิกสหประชาชาติ 193 ชาติ ที่ให้การยอมรับความเป็นรัฐของปาเลสไตน์
อย่างไรก็ตาม การทำเช่นนี้สร้างความไม่พอใจให้แก่อิสราเอลอย่างหนัก และตอบโต้ด้วยการเรียกเอกอัครราชทูตในสเปน, นอร์เวย์ และไอร์แลนด์ กลับทันที และเรียกตัวทูตของทั้ง 3 ประเทศในกรุงเทลอาวีฟ มาตำหนิ พร้อมเปิดวิดีโอภาพการโจมตีของกลุ่มฮามาสเมื่อ 7 ต.ค.ให้ดู เพื่อตอกย้ำถึงความอันตรายของกลุ่มติดอาวุธกลุ่มนี้
อิสราเอล ยังไม่พอใจรัฐบาลสเปนเป็นพิเศษ หลังรองนายกรัฐมนตรีสเปน โยลันดา ดิอาซ กล่าวว่า “เราจะหยุดไม่ได้ ปาเลสไตน์จะเป็นอิสราเอลตั้งแต่แม่น้ำไปจนถึงทะเล” ซึ่งทูตอิสราเอลในสเปนระบุว่า นี่เป็นการเรียกร้องให้เกิดการทำลายอิสราเอลอย่างชัดเจน
เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา นายอิสราเอล คัตซ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศอิสราเอล โพสต์วิดีโอลงบนโลกออนไลน์ เป็นภาพนกฟลามิงโกเต้นรำประกบคู่กับภาพการโจมตีของกลุ่มฮามาสเมื่อ 7 ต.ค. พร้อมกับข้อความว่า “ฮามาส : ขอบคุณนะสเปน” ซึ่งทำให้รัฐบาลแดนกระทิงดุออกมาประณามทันทีเช่นกัน
ในวันอังคาร นายคัตซ์ โพสต์ข้อความผ่าน X เรียกร้องให้ นายซานเชซไล่นายดิอาซออกจากตำแหน่ง “ซานเชซ ตราบใดที่คุณไม่ไล่รองนายกฯ ของคุณออก และคุณให้การรับรองรัฐปาเลสไตน์ ก็เท่ากับว่าคุณกำลังมีส่วนร่วมในการยุยงปลุกปั่นให้เกิดการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ และอาชญากรรมสงครามต่อชาวยิว”.
ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign
ที่มา : cna