หลังจากนายไล่ ชิงเต๋อ จากพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า (DPP) สาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีไต้หวันอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 20 พ.ค.ที่ผ่านมา ในที่สุดรัฐบาลจีนก็แสดงจุดยืนออกมาเป็นที่เรียบร้อย โดยเมื่อวันที่ 22 พ.ค. สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า สำนักงานกิจการไต้หวันของรัฐบาลจีน (TAO) ได้ออกแถลงการณ์เตือนว่า สุนทรพจน์ของนายไล่ ชิงเต๋อ เปรียบเสมือน การสารภาพว่าต้องการให้ไต้หวันเป็นเอกราช พร้อมตีตรานายไล่ ชิงเต๋ออีกครั้งว่าเป็นนักแบ่งแยกดินแดน ที่อันตราย

นายเฉิน ปิงหัว โฆษกสำนักกิจการไต้หวันของรัฐบาลจีน ยังประกาศว่า ไม่มีใครที่อยากรวมชาติอย่างสันติไปมากกว่ารัฐบาลจีน อย่างไรก็ตาม เรา จำเป็นที่จะต้องตอบโต้และลงโทษหน่วยงานประชา ธิปไตยก้าวหน้าหรือดีพีพี ที่สมคบคิดกับอิทธิพลจากต่างชาติ กระทำการยั่วยุด้วยแนวคิด “ความเป็นเอกราช” ขณะที่สำนักข่าวของรัฐบาลจีน ไม่ว่าจะเป็นไชน่า เดลี่ หรือโกลบอล ไทม์ส ต่างเขียนบทความโจมตีว่า การเรียกร้องเอกราชตามสไตล์ของนายไล่ ชิงเต๋อ จะยิ่งทำให้เกิดการเผชิญหน้า และความไร้เสถียรภาพในช่องแคบ ทั้งยังนำไปสู่ความไม่ประมาณ ตนและการทำลายตัวเอง

ด้านสำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เป็นที่รับรู้กันว่านายไล่ ชิงเต๋อ มีแนวคิดเรื่องความเป็นเอกราชของไต้หวันที่รุนแรงกว่า น.ส.ไช่ อิงเหวิน ประธานาธิบดีไต้หวันคนก่อน แต่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เจ้าตัวได้พยายามปรับลดโทนให้ดูมีความเป็นสายกลาง และคงสถานะที่เป็นอยู่ไว้ดังเดิม กระนั้นนักวิเคราะห์บางส่วนมองว่า ตลอดการบริหารไต้หวันเป็นเวลา 8 ปี น.ส.ไช่ อิงเหวิน ได้พยายามใช้ความคลุมเครือในการเจรจากับรัฐบาลจีน โดยเฉพาะเรื่องหลักการ “จีนเดียว” ที่อดีตประธานาธิบดีไต้หวันจะไม่ใช้คำว่าสองประเทศ แต่มักใช้คำว่าทั้งสองฝั่ง ของช่องแคบ ซึ่งสำหรับนายไล่ ชิงเต๋อ ประธานาธิบดีไต้หวันคนใหม่ มีความชัดเจนมากกว่า โดยกล่าวว่า สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) กับสาธารณรัฐประชาชนจีน (จีนแผ่นดินใหญ่) ไม่มีใครอยู่ใต้อาณัติใคร

...

ก่อนหน้านี้รัฐบาลจีนเคยประกาศเป้าหมายทางความมั่นคงว่า กองทัพปลดปล่อยประชาชนจีนจะมีความพร้อมในการ “รวมชาติ” ภายในปี 2570 ซึ่งเป็นกำหนดการที่อยู่ในช่วงระยะเวลาการบริหารราชการของนายไล่ ชิงเต๋อ จึงไม่แปลกที่ผู้นำใหม่ของไต้หวันจะประกาศจุดยืนในสุนทรพจน์รับตำแหน่งเมื่อวันที่ 20 พ.ค.ที่ผ่านมาว่า ไต้หวันจะเสริมสร้างการป้องกันดินแดนควบคู่ไปกับการวางมาตรการป้องปรามการรุกคืบของจีน พร้อมเตือนประชาชนไต้หวันว่า ถึงเราจะยอมรับจุดยืนของจีน และพร้อมที่จะยอมสูญเสียอธิปไตย ก็ใช่ว่าความทะเยอทะยานที่จะผนวกไต้หวันของจีนจะจางหายไป.

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่