วันเสาร์สบายๆ วันนี้ไปคุยเรื่องชานมไข่มุก สุดยอดซอฟต์พาวเวอร์ไต้หวันกันดีกว่า เครื่องดื่มมือเขย่าที่ทำสดใหม่แก้วต่อแก้วจากส่วนผสมคุณภาพดี ตอบสนองความต้องการเฉพาะบุคคลที่สามารถเลือกระดับความหวาน ปริมาณน้ำแข็ง และท็อปปิ้งได้ตามความชอบจนครองใจสาวกชานมทั้งเอเชีย ยุโรป และอเมริกา เป็นที่นิยมจนถึงขั้นมีการสถาปนาวันชานมไข่มุกแห่งชาติ National Bubble Tea Day ตรงกับวันที่ 30 เม.ย.ของทุกปี

วัฒนธรรมน้ำชาอยู่คู่กับชาวจีนมายาวนาน สมัยก่อนชาวไต้หวันซึ่งเป็นคนจีนอพยพก็หลงใหลการชงชาและดื่มชาร้อน ส่วนชานมไข่มุกเพิ่งถือกำเนิดมาแค่ 40 ปีนี่เอง แต่ได้เป็นเครื่องดื่มประจำชาติและเป็นซอฟต์พาวเวอร์ของไต้หวันขนานแท้

ต้นกำเนิดของชานมไข่มุกไต้หวัน คนส่วนใหญ่เชื่อกันว่ามีที่มาจากร้านชุนสุ่ยถัง Chun Shui Tang แห่งเมืองไถจง (มีแฟรนไชส์ขายในไทยด้วย) ซึ่งได้ไอเดียมาจากตอนไปญี่ปุ่นเห็นบาริสต้านำกาแฟใส่ในกระบอกเชกแล้วเติมน้ำแข็งเขย่าเป็นกาแฟเย็น จึงก๊อบปี้ไอเดียมาใช้กับร้านขายชาของตัวเอง เปิดขายชาชงเขย่ากระบอกเชก ต่อมามีการคิดสูตรเอาขนมเฟิ่นเหยียนที่ทำจากแป้งมันสำปะหลังมาปั้นเป็นไข่มุกใส่ลงไป จนกลายเป็นเครื่องดื่มสุดฮิตในไต้หวันมาตั้งแต่ปี 2531

อย่างไรก็ตามมีอีกกระแสหนึ่งที่เชื่อว่าร้านชานมไข่มุกเจ้าแรกคือร้านฮั่นหลิน แห่งเมืองไถหนาน โดยเคลมว่า ตู้ซงเหอ ผู้ก่อตั้งร้านฮั่นหลิน เป็นผู้คิดค้นไข่มุกเมื่อปี 2529 ด้วยการเอาแป้งมันสำปะหลังมาต้มเชื่อมกับน้ำตาล แล้วเอามาผสมกับชานม เริ่มแรกใช้ไข่มุกสีขาว แต่ไม่นานก็เปลี่ยนสีมาใช้ไข่มุกสีดำเรื่อยมา

ช่วงนั้นร้านชานมไข่มุกผุดขึ้นเยอะมาก แพร่กระจายไปหลายประเทศในอาเซียน แต่เป็นกระแสฟีเวอร์อยู่แป๊บเดียวก็ค่อยๆ จางลง กระทั่งในปี 2559 กระแสชานมไข่มุกกลับมาอีกครั้ง เมื่อ ไช่ อิงเหวิน ประธานาธิบดีไต้หวัน ใช้นโยบาย New Southbound Policy สนับสนุนการท่องเที่ยวและธุรกิจ มุ่งหวังเพิ่มจำนวนผู้มาเยือนไต้หวัน จากนักท่องเที่ยวชาวไทย อินโดนีเซีย อินเดีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ให้เข้าไปเที่ยวไต้หวันได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า

...

รัฐบาลไต้หวันได้ใช้โอกาสนี้ประกาศว่า ชานมไข่มุกเป็นเครื่องดื่มประจำชาติ และระบุในทราเวลไกด์ว่า ถ้ามาไต้หวันต้องดื่มชานมไข่มุกสักครั้ง มิฉะนั้นจะถือว่ามาไม่ถึงไต้หวัน นอกจากนี้ชานมไข่มุกยังถูกนำมาเป็นส่วนหนึ่งในวิถีการทูต และเป็นเครื่องดื่มหลักต้อนรับแขกเหรื่อตามงานสำคัญต่างๆ

จากข้อมูลของกระทรวงการคลังไต้หวันพบว่าในปี 2566 ทั่วไต้หวันมีร้านชานม 28,574 ร้าน มีผลประกอบการรวมมากกว่า 1 แสนล้านเหรียญไต้หวัน หรือประมาณ 1.13 แสนล้านบาท

แบรนด์ชานมไข่มุกไต้หวันมีขายแฟรนไชส์และเปิดสาขาในหลายประเทศ เช่น ไทย เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น สิงคโปร์ ฮ่องกง เยอรมนี โปรตุเกส สหรัฐอเมริกา ขณะเดียวกันมีชานมจากประเทศอื่นเข้าไปขายในไต้หวันจำนวนไม่น้อย เช่น แบรนด์จากจีน ฮ่องกง สหรัฐอเมริกา ไทย แคนาดา ญี่ปุ่น ส่วนใหญ่จะมาในรูปแบบร้านกาแฟ

สำหรับการร่วมฉลองวันชาไข่มุกแห่งชาติ 30 เม.ย. ผู้คนมักจะ ซื้อชานมไข่มุกมาถ่ายรูปโพสต์ลงโซเชียล ขณะที่ร้านชานมทุกร้านจะจัดโปรโมชันส่วนลดพิเศษ บางแบรนด์จัดโชว์มินิคอนเสิร์ต แม้แต่แพลต ฟอร์มออนไลน์ก็มีโปรโมชันส่งเสริมการขายและจัดกิจกรรมชิงรางวัล

RuPaul's Drag Race รายการทีวีเรียลลิตี้ประกวดแดร็กโชว์ของสหรัฐอเมริกา ที่เปิดรับสมัครชาวแดร็กจากทั่วโลกมาเข้าแข่งขันประกวดชุดเครื่องแต่งกาย การแสดงและไอเดียต่างๆ ปีนี้จัดเป็นปีที่ 16 เมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา ผู้ชนะเป็นชาวไต้หวันชื่อ Nymphia Wind ชุดที่ใส่เข้าประกวดรอบสุดท้ายเป็นชุด “ชานมไข่มุก” ถือเป็นชาวเอเชียตะวันออกคนแรกที่ชนะการประกวดรายการนี้

ประธานาธิบดีไช่ อิงเหวินได้โพสต์อินสตาแกรมยินดีกับความสำเร็จของ Nymphia Wind ทันที พร้อมขอบคุณและชื่นชมยกย่องเป็นความภาคภูมิใจของชาวไต้หวัน

ผมคิดอยู่นานว่าไทยเรามีเครื่องดื่มชนิดไหนพอจะปั้นให้เป็นซอฟต์พาวเวอร์ได้ แต่ก็ยังนึกไม่ออก ถ้าท่านผู้อ่านพอจะมีไอเดีย ช่วยกันเสนอแนะไปถึงรัฐบาลนะครับ เห็นปลุกปั้นซอฟต์พาวเวอร์มา 8 เดือนแล้ว แต่ยังหาของที่ใช่จริงๆ ไม่เจอเสียที.


“ลมกรด”

คลิกอ่านคอลัมน์ “หมายเหตุประเทศไทย” เพิ่มเติม