ประธานาธิบดี ของเกาหลีใต้ กล่าวขอโทษต่อประเด็นอื้อฉาวที่ภรรยาของเขารับกระเป๋าหรูเป็นของขวัญ รวมถึงให้คำมั่นที่จะเร่งพัฒนาเศรษฐกิจ ในอีก 3 ปีที่เหลือของการดำรงตำแหน่ง

ประธานาธิบดียุน ซอกยอล ของเกาหลีใต้ ยอมรับเมื่อวันพฤหัสบดีว่าความพ่ายแพ้การเลือกตั้งของพรรครัฐบาลของเขาเมื่อเดือนที่แล้ว สะท้อนให้เห็นถึงความล้มเหลวของรัฐบาลในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน และขอโทษสำหรับเรื่องอื้อฉาวที่เกี่ยวข้องกับภรรยาของเขา

ประธานาธิบดียุน ได้กล่าวขอโทษอย่างเปิดเผยเป็นครั้งแรกต่อประเด็นเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับภรรยาของเขา ซึ่งเป็นประเด็นนี้น่าจะมีน้ำหนักอย่างมากต่อความพยายามในการขอความร่วมมือจากรัฐสภาที่ควบคุมโดยฝ่ายค้าน ในเรื่องลำดับความสำคัญของนโยบาย นายยุนได้กล่าวขอโทษสำหรับสิ่งที่เขาระบุว่าเป็นพฤติกรรมที่ไม่ฉลาดของภรรยาที่รับกระเป๋าคริสเตียน ดิออร์ เป็นของขวัญจากบาทหลวงชาวอเมริกันเชื้อสายเกาหลีเมื่อปีที่แล้ว และยังคงปฏิเสธการเรียกร้องของสมาชิกสภานิติบัญญัติฝ่ายค้าน ให้สอบสวนข้อกล่าวหาดังกล่าว และปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดเพิ่มเติมใดๆ เพราะเรื่องดังกล่าวยังอยู่ในระหว่างการสอบสวนของอัยการ

ในการแถลงข่าวครั้งแรกในรอบ 21 เดือน นายยุนยังให้คำมั่นว่าจะมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาเศรษฐกิจ และจัดการกับปัญหาอัตราการเกิดที่ลดต่ำลงเป็นประวัติการณ์ ในช่วง 3 ปีที่เหลือในการดำรงตำแหน่ง

การเติบโตทางเศรษฐกิจของเกาหลีใต้สูงกว่าการคาดการณ์ส่วนใหญ่ที่คาดว่าจะขยายตัว 1.3% ในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ แม้ว่าค่าครองชีพจะยังคงสูงอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะมีความคืบหน้าในการจัดการกับภาวะเงินเฟ้อก็ตาม

นายยุนกล่าวว่า รัฐบาลเตรียมจัดตั้งหน่วยงานเพื่อจัดการกับอัตราการเกิดที่ต่ำเป็นประวัติการณ์ และจำนวนประชากรสูงอายุที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว หลังจากอัตราการเจริญพันธุ์ของเกาหลีใต้ลดลงต่ำเป็นประวัติการณ์ในปี 2566 เนื่องจากผู้หญิงอ้างถึงความกังวลเกี่ยวกับการแบกภาระส่วนใหญ่ในการเลี้ยงดูบุตร การสูญเสียโอกาสทางอาชีพ และต้นทุนทางการเงินในการเลี้ยงดูบุตร ว่าเป็นเหตุผลในการชะลอการให้กำเนิด หรือการไม่มีบุตร

...

พรรคพลังประชาชนของนายยุน ประสบความพ่ายแพ้อย่างหนักในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 10 เมษายน ซึ่งก่อให้เกิดเสียงเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบความเป็นผู้นำและทิศทางนโยบายของเขา เพื่อรักษาวาระการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีที่ยังไม่ถึงครึ่งทาง นายยุนกล่าวเมื่อถูกถามเกี่ยวกับความพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งของพรรคของเขาว่า มันสะท้อนให้เห็นถึงการประเมินของสาธารณชนว่างานของรัฐบาลยังไม่เพียงพอต่อปัญหาที่เกิดขึ้น

ประธานาธิบดียุน ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีในปี 2565 โดยชนะคู่แข่งด้วยคะแนนเสียงน้อยกว่า 1% พบว่าคะแนนนิยมของเขาดิ่งลงสู่ระดับต่ำสุดที่ 21% ในการสำรวจความคิดเห็นสาธารณะครั้งหนึ่ง

สส.พัก ชานแด ผู้นำคนใหม่ของพรรคประชาธิปไตย ซึ่งเป็นฝ่ายค้านหลัก กล่าวถึงการแถลงข่าวของนายยุนว่าเขารู้สึกผิดหวังอย่างมาก โดยกล่าวย้ำว่าประธานาธิบดีไม่มี "ทั้งหัวใจและความตั้งใจที่จะปกป้องชีวิตของประชาชน".

ที่มา Reuters

ติดตามข่าวต่างประเทศเพิ่มเติมที่ https://www.thairath.co.th/news/foreign