วันเสาร์สบายๆ วันนี้ผมมี “ข่าวดีจากอังกฤษ” มาฝากครับ วันอังคาร (16 เม.ย.) ที่ผ่านมา สภาผู้แทนราษฎรอังกฤษ ได้ลงมติเห็นชอบ อย่างท่วมท้น 383 ต่อ 73 เสียงจาก สส.ฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน ในวาระสอง “ร่างกฎหมายยุคปลอดบุหรี่” (Smoke–Free Generation) ซึ่งครอบคลุมทั้ง บุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้า เพื่อลดจำนวนผู้เสียชีวิตจากการสูบบุหรี่ และโรคร้ายแรงที่เกิดจากบุหรี่ ซึ่งกำลังเป็นภาระต่องบประมาณ ของ “ระบบดูแลสุขภาพแห่งชาติ” (National Health Service) ร่างกฎหมายฉบับนี้กำลังเข้าสู่การพิจารณาของ “สภาสูง” หรือ “สภาขุนนาง” หากได้รับความเห็นชอบจะมีผลบังคับใช้เป็นกฎหมาย ในสิ้นปีนี้

เมื่อ กฎหมายยุคปลอดบุหรี่ มีผลบังคับใช้ เด็กอังกฤษยุคใหม่จะไม่ สามารถซื้อบุหรี่มาสูบไปตลอดชีวิต เริ่มตั้งแต่คนในเจเนอเรชันนี้เป็นต้นไป

ร่าง พ.ร.บ.ยาสูบและบุหรี่ไฟฟ้าของรัฐบาลอังกฤษ ซึ่งมีนายริชี ซูแน็ก เป็นนายกฯ ฉบับนี้ถือเป็นกฎหมายห้ามสูบบุหรี่ที่เข้มงวดที่สุดใน โลก เมื่อกฎหมายใช้บังคับ การขาย ผลิตภัณฑ์ยาสูบ เช่น บุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้า ให้กับเด็กและเยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี หรือ เด็กที่เกิดหลังวันที่ 1 มกราคม 2556 จะถือเป็น เรื่องผิดกฎหมาย ทั้งใน อังกฤษ เวลส์ รวมทั้ง สกอตแลนด์ ไอร์แลนด์เหนือ ที่คาดว่าจะมีการใช้กฎหมายฉบับเดียวกัน

ถ้าจับได้ต่อหน้า ถูกปรับ 100 ปอนด์ หรือ 125 ดอลลาร์ กว่า 4,500 บาท ถ้าขึ้นศาลอาจถูกปรับสูงถึง 2,500 ปอนด์ หรือ 3,118 ดอลลาร์ราว 115,000 บาท

...

ปัจจุบันกฎหมายอังกฤษกำหนดอายุขั้นต่ำที่อนุญาตให้ซื้อผลิตภัณฑ์ยาสูบ และบุหรี่ไฟฟ้าได้ คือ 18 ปี กฎหมายใหม่นี้กำหนดอายุขั้นต่ำใหม่ ตั้งแต่ปี 2027 เป็นต้นไปให้เพิ่มขึ้นปีละ 1 ปี จนครบประชากรทั้งประเทศ หมายความว่า เด็กที่เกิดหลังวันที่ 1 มกราคม 2556 เป็นต้นไป จะไม่มีใครสามารถซื้อผลิตภัณฑ์บุหรี่ได้อีกไปจนชั่วชีวิต

รัฐบาลอังกฤษคาดว่า คนรุ่นใหม่ทุกคนจะไม่มีใครสูบบุหรี่ตั้งแต่ปี 2040 เป็นต้นไป

ร่างกฎหมายยุคปลอดบุหรี่ ของอังกฤษฉบับนี้ ได้รับแรงบันดาลใจมา จากกฎหมายห้ามขายบุหรี่ของนิวซีแลนด์ ซึ่งห้ามขายบุหรี่ให้กับเด็ก และเยาวชนที่เกิดหลังต้นปี 2566 กฎหมายของนิวซีแลนด์ฉบับนี้ได้ผ่านรัฐสภาออกมาเรียบร้อยแล้ว จะมีผลบังคับใช้ในเดือนกรกฎาคม 2567 นี้ แต่ถูกรัฐบาลใหม่นิวซีแลนด์ยกเลิก นายกฯใหม่ของนิวซีแลนด์ที่ยกเลิกกฎหมายดีๆของชาติไปคนนี้ก็คือ นายคริสโตเฟอร์ ลักซอน ซึ่งเพิ่งบินมาเป็นแขกของรัฐบาลไทย และมีการลงนามเป็น “หุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์” ด้วยกัน

ปัจจุบัน กว่า 150 ประเทศทั่วโลกกำลังปรับกฎหมายห้ามสูบบุหรี่ให้เข้มงวดขึ้น ปี 2020 ปารากวัย เป็นประเทศสุดท้ายใน ทวีปอเมริกาใต้ ที่ออกกฎหมายห้ามสูบบุหรี่ สูบได้เฉพาะกลางแจ้งที่ไม่มีคนพลุกพล่านเท่านั้น ปีที่แล้ว 2023 เม็กซิโก ก็มีการออกกฎหมายห้ามสูบบุหรี่ที่เข้มงวดที่สุดในโลก คือ ห้ามสูบในสถานที่สาธารณะทุกแห่ง ชายหาด โรงแรม สำนักงาน ร้านอาหาร สูบได้เฉพาะในบ้านตัวเองเท่านั้น

ข้อมูลจาก สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษ ระบุว่า ปี 2022 อังกฤษมีผู้สูบบุหรี่ 6.4 ล้านคน น้อยกว่าไทยเยอะ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจากบุหรี่ถึง 64,000 คน 1 ใน 4 เสียชีวิตจากโรคมะเร็ง แต่ข้อมูลด้านสาธารณสุขระบุว่า มีผู้เสียชีวิตจากบุหรี่ถึงปีละ 80,000 คน กฎหมายแบนบุหรี่ใหม่ของรัฐบาลอังกฤษ คาดว่าจะช่วยป้องกันผู้ป่วยจากบุหรี่ได้ถึง 470,000 คน ภายในสิ้นศตวรรษนี้ จากโรคหัวใจ เส้นเลือดในสมองแตก มะเร็งปอด ฯลฯ

วันนี้ ทั่วโลกกำลังออกกฎหมายเลิกบุหรี่ และบุหรี่ไฟฟ้า เพราะ เป็นอันตรายร้ายแรงต่อสุขภาพประชาชน แต่มีข่าวว่า คณะกรรมาธิการฯ ศึกษากฎหมาย และมาตรการควบคุมบุหรี่ไฟฟ้า มีแผนจะไปดูงาน การผลิตและจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าที่ประเทศจีน ซึ่ง บุหรี่ไฟฟ้าจีน มีการลักลอบเข้ามาขายในไทยอย่างผิดกฎหมายมากมาย วันก่อนก็เพิ่งจับไปลอตใหญ่

เราเดินมาไกลมากแล้ว การควบคุมการขายบุหรี่ และบุหรี่ไฟฟ้าเพื่อปกป้องสุขภาพของคนไทย หวังว่านักการเมืองจะไม่ถูกอิทธิพลของบริษัทบุหรี่ข้ามชาติครอบงำอีก.

“ลม เปลี่ยนทิศ”

คลิกอ่านคอลัมน์ “หมายเหตุประเทศไทย” เพิ่มเติม