เมื่อวันที่ 17 เม.ย. สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่ากองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เผยแพร่รายงานดัชนีเศรษฐกิจโลก ฉบับเดือน เม.ย.2567 คาดคะเนว่าเศรษฐกิจโลกจะเติบโตในอัตรา 3.2% ระหว่างปี 2567-2568 โดยที่เศรษฐกิจตลาดเกิดใหม่และเศรษฐกิจชาติกำลังพัฒนาจะเติบโตมากกว่าเศรษฐกิจชาติพัฒนาแล้ว พร้อมประเมินว่าอัตราเงินเฟ้อจะลดลงเรื่อยๆจาก 5.9% ในปี 2567 กลายเป็น 4.5% ในปี 2568
อย่างไรก็ตาม ไอเอ็มเอฟยังแสดงความกังวลต่อมาตรการการใช้จ่ายเกินตัวของรัฐบาลสหรัฐฯ โดยระบุว่า งบประมาณขาดดุลของสหรัฐฯ (รายจ่ายสูงกว่ารายได้) อยู่ที่ 1.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือกว่า 50.4 ล้านล้านบาท ในปี 2565 ก่อนกลายเป็น 1.7 ล้านล้านดอลลาร์ หรือกว่า 61.2 ล้านล้านบาท ในปี 2566 ซึ่งทิศทางนี้สร้างความเสี่ยงที่จะทำให้เงินเฟ้อเพิ่มขึ้น และส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพการเงินโลกในระยะยาว ยังไม่รวมถึงปัจจัยหนี้สาธารณะของสหรัฐฯที่ยังคงเพิ่มอย่างต่อเนื่อง จาก 32 ล้านล้านดอลลาร์ หรือกว่า 1,152 ล้านล้านบาท ในเดือน มิ.ย.2566 กลายเป็น 34 ล้านล้านดอลลาร์ หรือราว 1,224 ล้านล้านบาทในช่วงเดือน ธ.ค.2566 ส่วนสำนักงานงบประมาณสภาคองเกรสสหรัฐฯประเมินว่าในช่วง 10 ปีหน้า หนี้ดังกล่าวจะกลายเป็น 54 ล้านล้านดอลลาร์ หรือกว่า 1,944 ล้านล้านบาท.
อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่