พรรคฝ่ายค้านของเกาหลีใต้ ได้รับชัยชนะอย่างถล่มทลายในการเลือกตั้งรัฐสภา และนับเป็นความพ่ายแพ้ครั้งใหญ่ของ นายยุน ซอกยอล ประธานาธิบดีเกาหลีใต้
ข้อมูลจาก คณะกรรมการการเลือกตั้งแห่งชาติ และสถานีโทรทัศน์หลายแห่ง เผยว่า พรรคประชาธิปไตย หรือดีพี ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้าน จะได้ที่นั่ง 175 ที่นั่ง จากทั้งหมด 300 ที่นั่งในรัฐสภา หลังการนับคะแนนทั้งหมดเสร็จสิ้นเมื่อเวลา 10.32 น. ตามเวลาท้องถิ่น
การคาดการณ์แสดงให้เห็นว่า พรรคเสรีนิยม ซึ่งเป็นพันธมิตรกับพรรคดีพี คาดว่าจะได้ที่นั่ง 12 ที่นั่ง ส่งผลให้กลุ่มดังกล่าวมีที่นั่งรวมเกือบ 200 ที่นั่ง เพื่อครองเสียงข้างมากในรัฐสภา ส่วนพรรคพลังประชาชน หรือพีพีพี ได้รับเลือก 108 ที่นั่ง ทั้งนี้การประกาศผลอย่างเป็นทางการจะมีขึ้นในวันนี้
นายอี แจ-มยอง ผู้นำพรรคดีพี กล่าวว่า สิ่งสำคัญที่สุดในขณะนี้คือการทำงานเพื่อเร่งฟื้นฟูทางเศรษฐกิจซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้บริโภคโดยเฉลี่ย เขากล่าวว่า "พรรครัฐบาล และพรรคฝ่ายค้าน จะต้องร่วมมือกันเพื่อเอาชนะวิกฤติในการดำรงชีพทางเศรษฐกิจของผู้บริโภค"
นักวิเคราะห์บางคนมองว่า การแข่งขันครั้งนี้เปรียบเสมือนเป็นการลงประชามติต่อ นายยุน ซึ่งได้รับความนิยมลดลง ท่ามกลางวิกฤติค่าครองชีพ และเรื่องอื้อฉาวทางการเมืองมากมาย
นายยุน ซึ่งเข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนพฤษภาคม 2565 มีคะแนนนิยมที่ตกต่ำเป็นเวลาหลายเดือน รวมถึงไม่สามารถปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาที่จะลดภาษี ผ่อนคลายกฎระเบียบทางธุรกิจ และขยายการสนับสนุนแก่ครอบครัวในสังคมผู้สูงอายุที่ขยายตัวรวดเร็วที่สุดในโลก
นักวิเคราะห์กล่าวว่า การควบคุมรัฐสภาของฝ่ายค้านจะยังคงทำให้รัฐบาลเผชิญกับทางตันทางการเมืองในประเด็นที่นายยุนได้ปะทะกับกลุ่มสรีนิยมเกี่ยวกับนโยบายที่จำเป็นต้องมีการออกกฎหมาย เช่น มาตรการจูงใจทางภาษีสำหรับธุรกิจ และเพิ่มการเก็บภาษีกำไรจากการขายหุ้นหรือไม่
...
นายยุน กล่าวยอมรับผลการเลือกตั้งดังกล่าว และให้คำมั่นที่จะปรับคณะรัฐมนตรี ด้านสำนักข่าวยอนฮับรายงานว่า นายกรัฐมนตรีฮัน ดัคซู และผู้ช่วยอาวุโสคนอื่นๆ ยังได้เสนอที่จะลาออกหลังการพ่ายแพ้การเลือกตั้ง
ศาสตราจารย์ด้านรัฐศาสตร์ ลี จุน-ฮวาน จากมหาวิทยาลัยแห่งชาติอินชอน กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้มีคุณลักษณะคล้ายกับการเลือกตั้งกลางเทอม โดยผู้มีสิทธิเลือกตั้งต้องการชี้ให้เห็นว่านโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลล้มเหลว
"คำตัดสิน" ถือเป็นประเด็นหลักที่เกิดขึ้นผ่านการแสดงความคิดเห็นของผู้ชนะฝ่ายค้านต่อการจัดการเศรษฐกิจที่ผิดพลาดของนายยุน และการที่เขาปฏิเสธที่จะยอมรับว่า คิม กอนฮี สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง กระทำการที่ไม่เหมาะสมเมื่อเธอรับกระเป๋าดิออร์เป็นของขวัญ และเธอไม่ปรากฏตัวในที่สาธารณะตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม รวมถึงในวันที่นายยุนเดินทางไปลงคะแนนเสียง ซึ่งสะท้อนความเห็นของนักวิเคราะห์และสมาชิกพรรคฝ่ายค้านบางคนว่าเธอต้องรับผิดชอบทางการเมืองต่อประธานาธิบดี และพรรคพลังประชาชน.
ที่มา Reuters
ติดตามข่าวต่างประเทศเพิ่มเติมที่ https://www.thairath.co.th/news/foreign