โบอิ้ง ผู้ผลิตเครื่องบินรายใหญ่ของโลก ปรับผู้บริหารครั้งใหญ่ หลังเครื่องบินของพวกเขาเกิดเหตุขัดข้องหลายครั้งในช่วงที่ผ่านมา จนถูกตั้งคำถามเรื่องความปลอดภัย และการควบคุมคุณภาพ

เมื่อวันจันทร์ที่ 25 มี.ค. 2567 นายเดฟ คาลฮูน ประธานเจ้าหน้าที่บริการของโบอิ้ง ประกาศว่าเขาจะลงจากตำแหน่งภายในสิ้นปีนี้ ขณะที่ นายแลร์รี เคลเนอร์ ประธานบอร์ดบริหาร จะไม่ลงชิงตำแหน่งอีกสมัย โดยบอร์ดเลือก นายสตีฟ คอลเลนคอปฟ์ อดีตซีอีโอของบริษัท ควอลคอมม์ มาสืบทอดตำแหน่งแทน

โบอิ้ง ประกาศด้วยว่า นายสแตน ดีล ซีอีโอแผนกเครื่องบินพาณิชย์โบอิ้ง (Boeing Commercial Airplanes) เกษียณอายุแล้ว โดยที่ น.ส.สเตฟานี โป๊ป หัวหน้าเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ หรือ ซีโอโอ ของโบอิ้ง จะมารับตำแหน่งแทนในทันที

ทั้งนี้ นายคาลฮูน รับตำแหน่งซีอีโอของโบอิ้งในปี 2563 แทนที่ นายเดนนิส มูเลนเบิร์ก ผู้ถูกไล่ออกหลังเครื่องบินโอบิ้ง 737 แม็กซ์ ตกถึง 2 ลำ ภายในเวลาเพียง 5 เดือน ระหว่างปี 2561-2562 จนทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 346 ศพ และกลายเป็นอุบัติเหตุครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ของโบอิ้ง

นายคาลฮูน ให้สัญญาในตอนนั้นว่าจะเพิ่มความเข้มแข็งให้แก่วัฒนธรรมความปลอดภัยของโบอิ้ง และสร้างความเชื่อมั่นขึ้นมาใหม่อีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม โบอิ้ง ต้องเผชิญแรงกดดันอีกครั้ง เมื่อเดือนมกราคม ปี 2567 เกิดเหตุประตูฉุกเฉินที่ไม่ได้ใช้ของเครื่องบิน 737 แม็กซ์ ของสายการบิน อะแลสกา แอร์ไลน์ หลุดกลางอากาศ หลังจากขึ้นบินได้ไม่กี่นาที โดยที่ผลการสืบสวนในเวลาต่อมาพบว่า สลักเกลียว 4 ตัวซึ่งควรยึดประตูดังกล่าวเอาไว้ ถูกขันไม่แน่นพอ

นายคาลฮูน ยอมรับในจดหมายที่ส่งถึงพนักงานในวันจันทร์ว่า เหตุที่เกิดกับอะแลสกา แอร์ไลน์ คือจุดผกผันของโบอิ้ง “สายตาของทั้งโลกจับจ้องมาที่เรา เราจะแก้ไขสิ่งที่ไม่ได้ผล และเราจะนำบริษัทของเรากลับมาอยู่บนเส้นทางไปสู่การฟื้นตัว และความมั่นคงอีกครั้ง” โดยนายคาลฮูนย้ำด้วยว่า การตัดสินใจลงจากตำแหน่งเป็นการตัดสินใจของเขาคนเดียว 100%.

...

ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign

ที่มา : bbccnn