เมื่อ 14 มี.ค. กระทรวงต่างประเทศโปแลนด์แถลงว่า นายราเดก ซิกอร์สกี รมว.ต่างประเทศโปแลนด์ มีคำสั่งเรียกเอกอัครราชทูต 50 คน ที่ได้รับการแต่งตั้งจากรัฐบาลที่มีอุดมการณ์ชาตินิยมฝ่ายขวาชุดก่อนกลับประเทศโดยไม่ได้ระบุชื่อ และไม่ชี้แจงว่าจะแต่งตั้งทูตคนใหม่เมื่อใด หรือตำแหน่งในประเทศใดจะถูกตัดออก ระบุเพียงว่าได้เริ่มดำเนินการแล้ว และการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อปรับปรุงการทูตของโปแลนด์ในช่วงเวลาท้าทายให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ด้านนายโดนัลด์ ทุสก์ นายกรัฐมนตรีโปแลนด์ กล่าวว่า การมีคณะทูตที่จงรักภักดีเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง เมื่อเพื่อนบ้านอย่างยูเครนกำลังต่อสู้กับสงครามเต็มรูปแบบจากรัสเซีย ขณะที่ยังย้ำว่าไม่ใช่การแก้เผ็ดรัฐบาลชุดก่อน

อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวเอพีวิเคราะห์ว่าการเรียกทูตกลับครั้งนี้อาจไม่ได้รับการอนุมัติจากนายอันเดรซ ดูดา ประธานาธิบดีโปแลนด์ ที่มีความเชื่อมโยงกับรัฐบาลชุดก่อนและมักวิพากษ์วิจารณ์ทุสก์เสมอ และหากเป็นเช่นนั้นอุปทูตจะปฏิบัติหน้าที่เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนทางทูต ทั้งนี้ ในช่วง 8 ปีที่ผ่านมาภายใต้การบริหารประเทศนำโดยพรรคกฎหมายและความยุติธรรมชาตินิยม (PiS) ถูกกล่าวหาว่าทำลายหลักนิติธรรมและสิทธิเสรีภาพ เช่น ยกเลิกสิทธิการทำแท้ง ไม่หนุนสิทธิของกลุ่มหลากหลายทางเพศ ส่งผลให้บาดหมางกับสหภาพยุโรป แต่เมื่อทุสก์ขึ้นสู่อำนาจเป็นนายกรัฐมนตรีเมื่อเดือน ธ.ค.2566 ได้ให้คำมั่นว่าจะแก้ไขข้อผิดพลาดทั้งหมดเพื่อประชาชนทุกคนโดยไม่มีข้อยกเว้น.

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่